เมื่อวานนี้เขียนถึงผู้นำกับพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมต่างๆ ก็มีคำถามเกิดขึ้นว่า แล้วพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมเหล่านั้นจะก่อให้เกิดปัญหาอะไรตามมาได้บ้าง จริงๆ แค่อ่านจบก็ทราบแล้วว่า ถ้าผู้นำเป็นอย่างบทความเมื่อวานนี้จริงๆ สภาพขององค์กรคงจะไม่น่าอยู่อย่างยิ่ง ผลที่ตามมาและเป็นผลที่ค่อนข้างจะร้ายแรงก็คือเรื่องของวัฒนธรรมองค์กรนั่นเองครับ หลายๆ ตำรา และหลายๆ งานวิจัยต่างก็ยืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่า พฤติกรรมของผู้นำมีส่วนสร้าง หรือทำลาย วัฒนธรรมที่ดีขององค์กรได้อย่างชัดเจนมากๆ • ผู้นำที่ไม่ตัดสินใจ ก็จะสร้างวัฒนธรรมองค์กรแบบไม่มีใครกล้าตัดสินใจเช่นกัน เพราะขนาดตัวผู้นำเองยังดองเรื่องไว้ หรือรอๆๆ ไปเรื่อยๆ การทำงานของพนักงานระดับรองๆ ลงมาก็จะยึดแนวทางเดียวกัน ก็คือ รอไปเรื่อย เพราะเรื่องที่ส่งขึ้นไปยังไม่ตัดสินใจ พนักงานก็ทำอะไรไม่ได้มากนัก สุดท้ายวัฒนธรรมองค์กรก็จะเป็นแบบเรื่อยๆ ไม่มีใครที่จะกล้าฟันธง หรือตัดสินใจอะไรเลย องค์กรแบบนี้ จะเดินหน้าไปแบบช้าๆ หรือบางทีอาจจะถอยหลังด้วยซ้ำไป • ผู้นำที่ไม่เคารพกฎเกณฑ์ ก็จะสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ไม่มีการเคารพกฎเกณฑ์เช่นกัน พนักงานทุกคนก็จะข้ามหัวนายไปหาผู้นำ ผู้นำเองก็บ้าจี้ตอบคำถามของพนักงานคนนั้นด้วย แทนที่จะสั่งการให้ไปหารือกับหัวหน้าของตนเองก่อน ผลก็คือ จะเกิดความโกลาหลในการทำงาน การเสนองานไม่เป็นไปตามลำดับขั้นการบังคับบัญชา พนักงานอยากได้อะไรที่มีความสำคัญมากๆ ก็กระโดดข้ามหัวหน้าตนเองไปหานายเลย เพราะเชื่อว่า ยังไงซะไปหานายน่าจะดีกว่าหาหัวหน้าตนเอง ลองนึกภาพดูสิครับว่าวัฒนธรรมขององค์กรจะออกมาเป็นอย่างไร ถ้ามีผู้นำแบบนี้ • ผู้นำที่ขาดพลังการสร้างสรรค์ ก็จะสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ไม่มีพลังไปด้วย การที่ผู้นำมีพลังในการทำงาน เขาจะเป็นคนคิดสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ และจะผลักดันงานที่คิดลงไปสู่ผู้ใต้บังคับบัญชา ให้ลุยงานต่อให้สำเร็จ แล้วก็มีการติดตามผลสำเร็จเป็นระยะๆ ถ้าผู้นำองค์กรขาดสิ่งเหล่านี้ องค์กรก็จะไม่มีอะไรใหม่ๆ เกิดขึ้น ไม่มีความก้าวหน้าใดๆ ไม่มีความสำเร็จอะไรใหม่ๆ ไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไรที่ดีขึ้น อยู่กับระบบงานเดิมๆ สินค้าเดิมๆ ลูกค้าเดิมๆ • ผู้นำชอบแบ่งพรรคแบ่งพวก ก็จะสร้างวัฒนธรรมองค์กรแบบแบ่งพรรคแบ่งพวกเช่นกัน ลักษณะของผู้นำแบบนี้มักจะมีความคิดแบบเลือกที่รักมักที่ชังอยู่ตลอด ใครที่เทิดทูลได้ดี ก็จะเชื่อคนนั้น ส่วนบางคนที่พูดไม่ค่อยดี ก็จะไม่ชอบ บางแห่งก็มีการแบ่งกลุ่มชัดเจน ผู้นำจะคอยดูแลเอาใจใส่ทีมงานที่ทำรายได้ให้กับบริษัทมากกว่า หน่วยงานอื่นๆ ภายในองค์กร สุดท้ายวัฒนธรรมการทำงานเป็นทีมยังไงก็ไม่เกิด เพราะขนาดตัวผู้นำเองยังไม่สามารถสร้างบรรยากาศในการทำงานเป็นทีมได้เลย ข้างล่างก็ไม่ต้องพูดถึงครับ • ผู้นำที่ยึดถือชั้นยศ ก็จะสร้างวัฒนธรรมแบบเจ้ายศเจ้าอย่างให้เกิดขึ้นในองค์กร ผู้นำแบบนี้ เวลาที่ลูกน้องจะเสนออะไร ก็จะต้องทำให้ถูกต้องทั้งคำพูดที่เสนอ ทั้งขั้นตอนทุกอย่าง ห้ามข้ามขั้นตอนอย่างเด็ดขาด บางคนถ้าเป็นเด็กๆ เสนอขึ้นมา ผู้นำคนนี้ก็จะไม่รับฟังใดๆ ทั้งสิ้น และมักจะคิดว่า ตนเองเป็นถึงผู้นำ ทำไมต้องฟังเด็กๆ พวกนั้นด้วย สุดท้ายวัฒนธรรมเชิงลบในองค์กรก็จะเกิดขึ้น การทำงานแบบเจ้ายศเจ้าอย่าง ความล่าช้าในการทำงาน เพราะต้องเดินตามระเบียบวินัย อยู่กันไปสักพักระเบียบวินัยก็เกิดขึ้นข้อแล้วข้อเล่า แทนที่จะเกิดงานใหม่ๆ แต่นี่กลับเกิดแต่ระเบียบวินัยที่ไม่ได้เอื้อต่อการทำงานเลย จริงๆ แล้วหลายองค์กรก็มีผู้นำที่ดีมากมายเกิดขึ้น ก็มีบ้างอาจจะมีบางองค์กรที่ผู้นำเองยังคงเป็นอย่างที่เขียนมาข้างต้น ประเด็นก็คือ ถ้าผู้นำเป็นอย่างที่ว่ามาจริงๆ แล้วใครจะเป็นคนไปบอกเขาว่าเขาไม่ดีแบบนั้น ไม่ดีแบบนี้ ใครบ้างที่จะกล้าเอาห่วงไปผูกคอแมว สิ่งที่เกิดขึ้นจริงในองค์กรต่างๆ ที่ผู้นำเป็นอย่างที่เขียนไว้ ก็คือ พนักงานเก่งๆ ก็จะทยอยออกจากบริษัทไป เพราะพนักงานกลุ่มนี้บางคนกล้าที่จะเอาห่วงไปผูกคอแมวนะครับ เพียงแต่แมว ก็จะตะปบ และกินจนไม่เหลือซาก แล้วจะแก้ไขอย่างไรดี ก็คงต้องอาศัยความกล้าหาญของกลุ่มพนักงานเลย เพราะเรื่องแบบนี้ทำคนเดียวไม่ไหวครับ อาจจะต้องมีการรวมตัวกันของพนักงาน ทำการสำรวจความคิดเห็น ของพนักงานที่มีต่อองค์กร แล้วก็รวมเอาเรื่องผู้นำขององค์กรใส่เข้าไปด้วย แล้วเอาผลสำรวจนี้ไปนำเสนอต่อผู้นำ เพื่อเป็นกระจกสะท้อนภาพให้เขาเห็นตนเอง จากนั้นก็คงต้องขึ้นอยู่กับผู้นำ คนนั้นแล้วล่ะครับ ว่าเขาจะเป็นผู้นำที่แท้จริงหรือไม่ ที่จะยอมเปลี่ยนแปลงตนเอง เพื่อให้เกิดสิ่งที่ดีๆ กับองค์กร หรือจะเป็นแค่เพียงผู้นำตามชื่อตำแหน่งที่อยู่ในนามบัตรเท่านั้น บทความโดย : คุณประคัลภ์ ปัณฑพลังกูร ประกาศบทความโดย : www.prosofthrmi.com |