ในสถานประกอบการหรือในองค์กรหลายๆ แห่ง จะมีพนักงานกลุ่มหนึ่งที่เรียกว่า “พนักงานรายวัน” ซึ่งหมายความว่า ลูกจ้างซึ่งได้รับค่าจ้างเป็นรายวัน วันใดไม่ได้ทำงานก็จะไม่ได้รับค่าจ้าง ยกเว้น วันหยุดนักขัตฤกษ์ หรือวันที่นายจ้างกำหนดให้เป็นวันหยุดพักผ่อนประจำปี จึงจะได้รับค่าจ้าง ซึ่งจะแตกต่างจาก“พนักงานรายเดือน” ซึ่งหมายความว่า ลูกจ้าง ซึ่งได้รับค่าจ้างเหมาจ่ายเป็นรายเดือน วันอาทิตย์หรือวันหยุดประจำสัปดาห์ไม่ต้องมาทำงานก็ยังคงได้รับค่าจ้างตามปกติ รวมทั้งวันหยุดอื่นๆ อีกที่กำหนดไว้ในข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานของแต่ละองค์กร และหากเปรียบเทียบรายได้ระหว่างพนักงานรายวันกับพนักงานรายเดือน อัตราค่าจ้าง ขั้นต่ำ ณ ปัจจุบัน หากคิดในอัตราสูงสุด คือ วันละ 203 บาท เมื่อคูณกับจำนวนวันทำงาน 26 วันทำงาน พนักงานรายวันต่อหนึ่งชีวิตจะมีรายได้โดยเฉลี่ยต่อเดือนประมาณ 5,278 บาท ( ห้าพันสองร้อยเจ็ดสิบแปดบาทถ้วน ) ส่วนพนักงานรายเดือนนั้น หากคิดจากระดับการศึกษาวุฒิ ปริญญาตรี โดยส่วนใหญ่จะเริ่มต้นที่ 8,000 บาท เมื่อเปรียบเทียบกันแล้วจะเห็นได้ว่าแตกต่างกันประมาณสองพันกว่าบาท จากรายละเอียดข้างต้น สิ่งที่บทความนี้ต้องการชี้ให้เห็นก็คือ ไม่ว่าสภาวะเศรษฐกิจ ของประเทศจะเป็นเช่นไร ปัญหาในการดำรงชีวิตของพนักงานรายวัน ก็ยังคงเป็นปัญหาหลัก ขององค์กรทุกองค์กร กล่าวคือ พนักงานรายวันโดยส่วนใหญ่ขาดโอกาสทางการศึกษาด้วยอาจ เป็นเพราะฐานะทางครอบครัวของพนักงานรายวันไม่เอื้ออำนวยที่จะให้พนักงานรายวันได้ศึกษา เล่าเรียนในระดับสูงได้ จึงจำเป็นจะต้องหารายได้ยังชีพของตัวเองและครอบครัวเป็นอันดับแรกก่อน และหากมีโอกาสหรือฐานะดีขึ้นจึงจะค่อยคิดถึงเรื่องเกี่ยวกับการศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม ทำให้การเริ่มต้นทำงานกับสถานประกอบการหรือองค์กรใดๆ ก็มักจะว่าจ้างเป็นพนักงานรายวันก่อน ซึ่งเมื่อพิจารณาจากรายได้ต่อเดือนของพนักงานรายวันแล้ว เปรียบเทียบกับค่าใช้จ่ายต่างๆ เช่น ค่าเช่าห้อง ค่าน้ำ ค่าไฟฟ้า ค่าเดินทาง ค่าอาหารและค่าใช้จ่ายอื่นๆ อีกมากมาย รายได้ของพนักงานรายวัน แทบจะไม่เหลือหรือไม่เพียงพอต่อค่าใช้จ่ายต่อเดือน หากพนักงานรายวันท่านนั้นไม่ทำงานล่วงเวลา ปัญหาที่ใหญ่ไปกว่านั้นและสำคัญที่สุด คือ พนักงานรายวันไม่สามารถวางแผนการใช้เงินหรือวางแผนการใช้จ่ายได้อย่างเหมาะสม ทำให้เกิดปัญหาหนี้สิน ปัญหาเรื่องครอบครัว ปัญหาเรื่องสุขภาพ และปัญหาอื่นๆ ตามมาอีกมากมาย ผมเองในฐานะเป็นผู้ที่คร่ำหวอดในงานฝ่ายทรัพยากรบุคคล ได้มีโอกาสพูดคุย และได้มีโอกาสรับฟังปัญหาการดำรงชีวิตของพนักงานรายวันมาเกือบ 15 ปี ในทุกๆองค์กร มีความคิด เห็นว่า ถึงเวลาที่เจ้าของสถานประกอบการ ผู้ปรารถนาให้องค์กรของท่านมีธุรกิจที่ยั่งยืน มั่นคง และมีผลกำไร อย่างต่อเนื่อง จะช่วยกันหันมาให้การดูแลเอาใจใส่พนักงานรายวันของท่านอย่างจริงจังและจริงใจครับ โดยผมมีคำแนะนำ ดังต่อไปนี้ 1.พนักงานรายวันส่วนใหญ่ขาดความคิดในการวางแผนชีวิตที่ดี มักจะมีชีวิตวันต่อวัน ไม่มีการวางแผนในระยะสั้น หรือในระยะยาว องค์กรจึงต้องจัดตั้งหน่วยงานที่ดูแลในเรื่องการวางแผนชีวิตให้กับพนักงานรายวันนับตั้งแต่วันแรกที่เข้าทำงานกับสถานประกอบการนั้นๆ 2.พนักงานรายวันมักมีทัศนคติต่อตัวเองที่ไม่ค่อยดี ไม่มีความภาคภูมิใจในตนเอง ขาดความเชื่อมั่นในตนเองสูง ดูถูกตนเอง มักจะรอคอยโชค หรือฝากชีวิตไว้กับหวยหรือการเล่นแชร์ดังนั้น องค์กร จะต้องเสริมสร้างทัศนคติที่ดีให้เกิดขึ้นกับตัวพนักงาน สร้างความภาคภูมิใจความเชื่อมั่นในตนเองให้เกิดขึ้นกับตัวพนักงาน ซึ่งจะส่งผลดีต่อการดำเนินธุรกิจขององค์กรอย่างยั่งยืน 3.พนักงานรายวันจะขาดการออกกำลังกาย ซึ่งในระยะยาวพนักงานรายวันจะมีสุขภาพที่ทรุดโทรม เพราะมุ่งแต่การทำงานล่วงเวลาเพียงอย่างเดียว องค์กรจึงต้องจัดให้พนักงานรายวันได้มีโอกาสออกกำลังกายอย่างต่อเนื่อง และแนะนำให้พนักงานบริโภคอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ซึ่งจะส่งผลดีต่อองค์กรเมื่อมีพนักงานที่มีสุขภาพพลานามัยที่สมบูรณ์แข็งแรง 4.พนักงานรายวันจะมีปัญหาในเรื่องการขาดวินัยในการใช้เงิน มีความฟุ้งเฟ้อ อยากได้อยากมีตามเพื่อน องค์กรจึงต้องจัดตั้งหน่วยงานให้คำปรึกษาทางด้านการเงิน เพื่อให้ความรู้และคำแนะนำการใช้เงินอย่างเหมาะสมและมีความคิดในเชิงเศรษฐกิจพอเพียงและรู้จักการเก็บออมเพื่อตนเองและครอบครัว 5.พนักงานรายวันส่วนใหญ่ขาดโอกาสทางการศึกษา องค์กรจึงควรสนับสนุนให้พนักงานรายวันทุกคน ได้มีโอกาสหรือเพิ่มช่องทางทางการศึกษาให้กับพนักงานรายวันในองค์กร เพื่อพัฒนาศักยภาพของพนักงานรายวัน เพื่อพัฒนาองค์ความรู้ของพนักงานรายวัน อันจะส่งผลต่อทักษะในการทำงานของพนักงานรายวัน และเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการทำงานของพนักงานรายวันยิ่งขึ้น หากเจ้าของกิจการท่านใดได้อ่านและปฏิบัติตามคำแนะนำทั้ง 5 ข้อข้างต้นนี้แล้ว เชื่อได้ว่าธุรกิจของท่านจะเจริญรุ่งเรือง ประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืนและมั่นคง เพราะการที่ท่านได้วางรากฐานชีวิตให้กับพนักงานรายวันของท่าน ก็เปรียบเสมือนกับท่านได้วางรากฐานให้กับองค์กรของท่านเป็นอย่างดีแล้ว ซึ่งถือเป็นอานิสงส์อย่างแรงกล้าที่ท่านได้สร้างบุญกุศลให้กับ เพื่อนมนุษย์ที่ได้ชื่อว่า “พนักงานรายวัน” บทความโดย : สมชาย หลักคงคา ประกาศบทความโดย : www.prosofthrmi.com |