Agile - Way of Work: แนวคิดเพื่อการทำงานแบบเน้นผลลัพธ์ ปรับให้ไว
ปัจจุบันเป็นยุคสมัยแห่งการเปลี่ยนแปลงอย่างแท้จริง ทุกสิ่งเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วในเกือบทุกวินาที เพียงพริบตาเดียว วิธีการทำงานแบบเดิมๆ ที่เราคุ้นเคยกันอยู่ก็อาจไม่สามารถใช้ได้อีกต่อไป! จึงเป็นความจำเป็นที่เราจะต้องมองหาวิธีการใหม่ๆ เพื่อรับมือ
วิธีการทำงานแบบใหม่ๆ ที่จะตอบสนองการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วเหล่านี้ เพื่อให้องค์กรยังสามารถรักษาระดับ พัฒนา และสร้างความประทับใจให้ผู้บริโภคอย่างต่อเนื่องได้ คือ ‘Agile - Way of Work’ ซึ่งเป็นหนึ่งในกระบวนการทำงานที่มาแรงที่สุดในยุคนี้ก็ว่าได้!
Agile - Way of Work เป็นการทำงานในทีมที่ประกอบไปด้วยบุคลากรจากหลายสายงาน โดยเน้นการสื่อสารระหว่างบุคคลเพื่อสร้างความเข้าใจกันให้มากยิ่งขึ้นและเปลี่ยนวิธีการทำงาน จากการกำหนดเป้าหมายระยะยาวแบบมุ่งไปครั้งเดียว เป็นแบบระยะสั้นๆ เพื่อให้สามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงในโลกธุรกิจที่เกิดขึ้นตลอดเวลา
5 วิธีการทำงานแบบ Agile (อไจล์)
1.การแบ่งรอบการดำเนินงานเป็นระยะเวลาสั้นๆ (Sprint planning) คือการทำงานที่สามารถส่งมอบงานบางส่วน โดยไม่จำเป็นต้องรอจนกว่าจะเสร็จทั้งหมด และทยอยส่วนที่เหลือในรอบต่อๆไป เพื่อต่อสนองธุรกิจในปัจจุบันมีการแข่งขันที่สูง และความต้องการของผู้ใช้งานเปลี่ยนแปลงบ่อย
2.การทำงานโดยใช้ Task board (print Execution) เป็นบริหารการทำงาน โดยแบ่งสถานะการทำงานเป็น To-do, Doing and Done เพื่อให้ทุกคนในทีมได้อัปเดตและเห็นงานทั้งหมดร่วมกัน
3.การมีประชุมสั้นๆก่อนเริ่มงานทุกวัน (Daily meeting) เป็นการที่ทุกคนบอกกับทีมว่าวันนี้จะทำอะไร เราติดปัญหาอะไรอยู่ และต้องการความช่วยเหลืออย่างไร นอกจากนี้ยังเป็นการช่วยให้ทุกคนในทีมมีความกะตือรือร้นในการทำงานยิ่งขึ้น หรือบางครั้งเราอาจจะใช้วิธีการที่เรียกว่า ‘Standup Meeting’ หรือยืนประชุม เพื่อป้องกันการประชุมที่ใช้เวลานานเกินไป เพราะบางครั้งการที่เรานั่งประชุม จะทำให้เราสบายเกินไป และมีการคุย การนอกเนื่องเหนือจากประเด็นที่จำเป็น
4.การรีวิวและทดสอบงานในทุกๆ ช่วงการดำเนินงาน (Sprint Review) เป็นการทดสอบว่าเราทำงานเสร็จตามแผนที่วางไว้หรือไม่ ผลลัพธ์ที่ได้ตลอดรอบการดำเนินงานเป็นอย่างไร มีส่วนใดที่เกิดปัญหาและมีวิธีแก้ปัญหาอย่างไร
5.การวิเคราะห์วิธีการทำงานที่ผ่านมาเพื่อการพัฒนา (Retrospective) เป็นการที่ทีมร่วมกันทบทวนวิธีการทำงานที่ผ่านมา โดยคิดว่าอะไรที่ Good – ทำมาดีแล้วควรทำต่อไป Bad – อะไรที่เป็นปัญหาสมควรแก้ไข และ Try – จะทำอย่างไรให้วิธีการทำงานร่วมกันนั้นดีขึ้นหรือมีอะไรใหม่ ๆ ที่อยากจะลอง ในรอบการทำงานถัดไป
ขอบคุณที่มา : https://brandinside.asia