แผนที่บริษัทแผ่นเดียวก็สะท้อนระบบการทำงานได้

แผนที่บริษัทแผ่นเดียวก็สะท้อนระบบการทำงานได้



ได้อ่านบทความของอ. ณรงค์วิทย์ แสนทอง หัวข้อ “แผนที่ตั้งองค์กรสะท้อนอะไรให้บุคคลภายนอก รับรู้บ้าง?” ไม่น่าเชื่อว่า แผนที่แค่เพียงแผ่นเดียวจะสะท้อนระบบการทำงานได้ สำหรับ HR แล้ว เมื่อต้องนัดหมายผู้สมัครมาสัมภาษณ์งาน แผนที่ตั้งบริษัทเป็นสิ่งสำคัญที่บอกว่าบริษัทอยู่ที่ไหน และจะมาถึงได้ด้วยวิธีใด หลายบริษัทอาจพบว่าผู้สมัครงานส่วนใหญ่มักโทรมาถามที่ตั้งบริษัท แม้จะส่งแผนที่ให้แล้วก็ตาม เคยคิดหาสาเหตุหรือไม่ว่าทำไมเขาถึงไม่เข้าใจแผนที่ที่ส่งให้ แผนที่ของเราให้ข้อมูลเพียงพอหรือยัง ยิ่งไปกว่านั้นแผนที่ที่ดูเหมือนไม่มีบทบาทสำคัญ กลับสะท้อนอะไรได้มากมาย

• หากส่งแผนที่ช้า

สะท้อนระบบการทำงานที่ล่าช้าขององค์กร

• หากแผนที่เป็นลายมือวาดสด ๆ

สะท้อนว่าเป็นองค์กรที่ไม่มีการเตรียมพร้อม ทำงานแบบตั้งรับมากกว่า เชิงรุก

• หากแผนที่ก๊อปปี้หรือดาวน์โหลดมาจากอินเทอร์เน็ต

สะท้อนการทำงานแบบ Copy and Development ไม่มีอะไรเป็นเอกลักษณ์ขององค์กร

• หากแผนที่ไม่อัปเดต

สะท้อนว่าระบบในการทำงานอาจมีหลายอย่างที่ไม่อัปเดต

• หากแผนที่ไม่ให้ข้อมูลที่ต้องการ

เช่น บอกแค่ถนนใหญ่ ชื่อซอย ไม่บอกจุดสังเกต ไม่บอกระยะทาง สะท้อนว่าองค์กรนี้เสียเวลาไปกับสิ่งที่ไม่สำคัญ มากกว่าสิ่งที่สำคัญต่อองค์กร

• หากแผนที่ไม่ระบุชื่อบริษัท

มีแต่ลูกศรชี้ว่าอยู่ที่นี่ สะท้อนว่า เป็นองค์กร ที่ไม่มีความภูมิใจในตนเอง ไม่มีจุดเด่น

การทำแผนที่ให้มีข้อมูลครบถ้วนถือเป็นการเสริมภาพลักษณ์องค์กร เพิ่มความเป็นมืออาชีพได้ทางหนึ่ง

โดยข้อมูลสำคัญที่ควรมี ประกอบด้วย

• รายละเอียดขององค์กร ชื่อองค์กร โลโก้ ที่อยู่ เบอร์โทร

• อาจเพิ่มสโลแกนบริษัทเข้าไปด้วย เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ให้รู้ว่า บริษัทของเราประกอบธุรกิจเกี่ยวกับอะไร

• ควรบอกรายละเอียดที่ตั้งอย่างชัดเจน ทั้งถนนหลัก ถนนรอง แยก ซอย บอกให้ครบถ้วน

• ควรบอกจุดสังเกตหลัก ๆ และระยะทางในแต่ละช่วง

• ควรบอกวิธีการเดินทาง สายรถเมล์ หรือ BTS MRT สถานีอะไร

ในฐานะ HR ที่ต้องติดต่อนัดหมายผู้สมัครงานอยู่เสมอ แผนที่บริษัทเป็นสิ่งที่ต้องใช้เป็นประจำ ไม่ควรมองข้ามเลยทีเดียว แล้วแผนที่บริษัทของคุณล่ะเป็นอย่างไร



บทความโดย : th.jobsdb.com
ประกาศบทความโดย : www.prosofthrmi.com
 4653
ผู้เข้าชม

บทความที่เกี่ยวข้อง

การพาพนักงานไป Outing ถือเป็นหนึ่งในสวัสดิการหลัก ๆ ที่หลายองค์กรมี เพื่อดึงดูดพนักงานทั้งภายในและภายนอกให้อยากมาร่วมงานกันด้วย โดยวัตถุประสงค์หลักของการไป Outing ก็เพื่อเสริมสร้างความสามัคคี และเพื่อตอบแทนพนักงาน ให้ได้ผ่อนคลายจากการทำงานประจำวันอันตึงเครียดมายาวนาน โดยที่บริษัทจะดูแลเรื่องค่าใช้จ่ายไว้ทั้งหมด
ระบบลงเวลาเข้า-ออกของพนักงาน คือ ระบบที่ช่วยในการบันทึกเวลาการทำงานของพนักงาน ผ่านอุปกรณ์ดิจิทัลต่างๆ ตั้งแต่ เครื่องสแกนลายนิ้วมือ (Finger Scanner), สมาร์ทโฟน (Smart Phone), แท็บเล็ต (Tablet), ตลอดจนอุปกรณ์ต่างๆ ที่สามารถยืนยันตัวตนผู้ใช้งานได้อย่างชัดเจน ปลอดภัย และเชื่อมต่อสู่ระบบข้อมูลกลางอย่างระบบคลาวด์ (Cloud System) ได้ โดยจะระบุเวลาที่พนักงานเข้ามาทำงานและออกจากงานในแต่ละวัน ดูสถิติ ขาด ลา มาสาย ระบบนี้มีบทบาทสำคัญในการบริหารจัดการเวลาและการทำงานของพนักงาน ช่วยให้ฝ่ายทรัพยากรบุคคล (HR) และฝ่ายบริหารสามารถติดตามการทำงานของพนักงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงใช้ข้อมูลที่บันทึกเพื่อคำนวณเงินเดือน สวัสดิการ ค่าล่วงเวลา และการจัดทำรายงานการเข้างานได้อย่างแม่นยำ ตอบโจทย์การทำงานในธุรกิจยุคใหม่ได้อย่างสมบูรณ์แบบ
มนุษย์เงินเดือนบางคนอาจจะไม่รู้ด้วยซ้ำว่า ตัวเองมีสิทธิที่จะเรียกร้อง ค่าชดเชยจากนายจ้าง อันนี้เป็นสิทธิ์ของเรานะ พี่ทุยบอกเลยว่า เงินค่าชดเชย เป็นสิ่งที่นายจ้าง ต้องจ่าย ให้กับพนักงานหรือลูกจ้าง เพื่อช่วยเหลือในกรณีให้ออกจากงาน ซึ่งไม่ได้มาจากทำความผิดของพนักงานหรือลูกจ้าง แต่อาจจะด้วยเหตุผลบางอย่างที่จำเป็นต้องลดจำนวนพนักงานลง
ในแต่ละเดือนที่เราจ่ายเงินสมทบประกันสังคมนั้น ก็จะมีเงินส่วนหนึ่งที่จัดเก็บเข้าเป็นเงินสะสมประกันสังคม ซึ่งเงินส่วนนี้เองเราสามารถเช็คเงินสะสมประกันสังคมได้เองผ่านช่องทางออนไลน์ด้วย มาดูกันครับว่าทำยังไง แล้วยอดเงินประกันสังคมนี้ทำอะไรได้บ้าง

Employee Referral Program หรือ โครงการแนะนำพนักงาน คือระบบที่องค์กรใช้เพื่อกระตุ้นให้พนักงานที่ทำงานอยู่แนะนำบุคคลภายนอกที่มีคุณสมบัติที่เหมาะสมเข้ามาทำงานในตำแหน่งที่เปิดรับ โดยทั่วไปโครงการนี้มักมีการมอบรางวัลหรือโบนัสให้กับพนักงานที่แนะนำคนที่ถูกคัดเลือกและรับเข้าทำงานในองค์กรสำเร็จ โครงการแนะนำพนักงานนี้มีข้อดีหลายประการ เช่น การลดต้นทุนในการจ้างงาน เพิ่มคุณภาพของผู้สมัคร และสร้างความผูกพันให้กับพนักงานในองค์กร
การจัดกะพนักงาน คือ กระบวนการวางแผนและจัดระเบียบเวลาทำงานของพนักงานให้เหมาะสมกับความต้องการขององค์กรในแต่ละช่วงเวลา โดยแบ่งเวลาทำงานออกเป็นหลายช่วง (หรือหลายกะ) เพื่อให้มีพนักงานเพียงพอในการปฏิบัติงานตลอดเวลา เช่น ในกรณีขององค์กรที่เปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมงหรือมีความต้องการกำลังคนที่เปลี่ยนแปลงไปในแต่ละช่วงเวลา
สร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปฟรี ร้านค้าออนไลน์