จะให้พนักงานโตที่นี่ หรือให้ไปโตที่อื่น

จะให้พนักงานโตที่นี่ หรือให้ไปโตที่อื่น



ปัจจุบันการพัฒนาทรัพยากรบุคคลเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่องค์กรต้องให้ความสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากสืบเนื่องมาจากในอดีตองค์กรไม่เคยที่จะวางแผนการพัฒนาคนอย่างต่อเนื่อง ผลก็คือ ปัจจุบันนี้หลายองค์กรมีปัญหาเรื่องของการขาดแคลนพนักงานที่มีฝีมืออย่างมาก เนื่องจากคนเก่าแก่กำลังจะเกษียณอายุ แล้วไม่มีผู้สืบทอดตำแหน่งแทน ทำให้องค์กรขาดช่วง และขาดความต่อเนื่องในการทำธุรกิจ

ปัญหาของการขาดแคลนพนักงานทีมีฝีมือ นั้นก็เกิดขึ้นเนื่องจากองค์กรไม่ได้วางแผนการเติบโตให้กับพนักงาน และอาจจะไม่มีการวางแผนการเติบโตในสายอาชีพ ดังนั้นเมื่อพนักงานรู้สึกว่า ทำงานที่นี่ไม่โตไปไหน ก็ต้องตัดสินใจไปโตที่อื่นดีกว่า

ยิ่งเด็กรุ่นใหม่ ที่เป็น Gen Y แล้ว ยิ่งต้องการที่จะรู้ว่า เขาทำงานในองค์กรแล้ว เขาจะสามารถเติบโตไปไหนได้บ้าง และองค์กรมีแนวทางในการทำให้เขาเติบโตได้อย่างไรบ้าง ซึ่งถ้าไม่ชัดเจน คนรุ่นนี้สามารถที่จะตัดสินใจอย่างรวดเร็วที่จะไม่ทำงานกับองค์กร แล้วไปทำกับที่อื่นแทนโดยไม่ลังเลใดๆ เลย

ดังนั้นสิ่งที่องค์กรปัจจุบันจะต้องสร้างให้เกิดขึ้นให้ได้ ก็คือ ระบบการบริหารทรัพยากรบุคคลที่ทำให้พนักงานที่มีฝีมือสามารถเติบโตในองค์กรได้ เพื่อให้องค์กรไม่ขาดช่วงของพนักงาน อย่างที่หลายๆ องค์กรเป็นอยู่ในปัจจุบัน การที่จะทำให้พนักงานรู้สึกว่าทำงานที่นี่แล้วสามารถเติบโตได้จะต้องประกอบไปด้วยปัจจัยดังต่อไปนี้

• มีการพัฒนาคนอย่างเป็นระบบ องค์กรจะต้องสร้างระบบการพัฒนาพนักงานอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง สามารถที่จะวางแนวทางในการพัฒนาพนักงานแต่ละคนได้อย่างชัดเจน ว่าในแต่ละปีพนักงานจะต้องถูกพัฒนาในเรื่องอะไรบ้าง ซึ่งตรงนี้จะต้องอาศัยผู้จัดการ หรือหัวหน้าตามสายงานเป็นคนช่วยวิเคราะห์และประเมินจากผลงานของพนักงานแต่ละคนที่ทำออกมาในแต่ละปี ด้วยระบบการพัฒนาอย่างจริงจังนี้ จะทำให้พนักงานที่มีจุดแข็ง ก็จะได้รับการต่อยอดออกไป ส่วนพนักงานที่มีจุดอ่อนในการทำงาน ก็จะได้รับการพัฒนาเพื่ออุดจุดอ่อนที่มีผลกระทบกับการทำงานอยู่เสมอ ผลก็คือ พนักงานรู้สึกว่า ทำงานที่องค์กรนี้แล้ว ตนเองมีความรู้ ทักษะ และความสามารถมากขึ้นอยู่ตลอดเวลา

• มีการวางแนวทางการเติบโตตามสายอาชีพ อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญก็คือ หลังจากที่พนักงานได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องแล้ว สิ่งที่พนักงานอยากรู้ และอยากเห็นต่อไปก็คือ เขาจะสามารถเติบโตไปทางไหนได้บ้างในองค์กร และการเติบโตนั้นจะต้องใช้เวลากี่ปี และจะต้องทำอย่างไรบ้าง ที่จะก้าวหน้าไปตามตำแหน่งงานตามสายอาชีพที่กำหนดไว้ เรื่องของ Career Path นี้ จะต้องทำอย่างเป็นระบบที่ชัดเจน ที่สามารถอธิบายให้พนักงานได้เห็นภาพง่ายๆ และไม่ยากจนเกินไปที่ทำให้พนักงานรู้สึกว่า ทำยังไงก็ไม่สามารถโตได้ และก็ไม่ใช่ง่ายเกินไป จนพนักงานโตขึ้นไปจนไม่มีที่ให้โตไปไหนได้อีก

• มีระบบค่าตอบแทนที่สะท้อนการเติบโตตามสายอาชีพ นอกจากตำแหน่งและเส้นทางในการโตแล้ว อีกเรื่องหนึ่งที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ เรื่องของระบบค่าตอบแทนที่สอดคล้องกับตำแหน่งงานที่เติบโตขึ้นไป ซึ่งจริงๆ แล้วจะต้องเป็นระบบค่าตอบแทนที่สะท้อนในเรื่องของผลงานพนักงาน และความสามารถของพนักงานที่เพิ่มสูงขึ้น เพื่อที่จะเป็นการบอกกับพนักงานได้ว่า เมื่อคุณโตตามสายอาชีพแล้ว ค่าตอบแทนของคุณก็โตไปด้วย ไม่ใช่โตแต่กล่องและหน้าที่ความรับผิดชอบสูงขึ้น แต่เงินได้เท่าเดิมไม่มีการขยับตาม แบบนี้ก็คงไม่มีพนักงานคนไหนอยากโตในองค์กร

• มีระบบการวางแผนทดแทนตำแหน่ง ถ้าองค์กรอยากให้พนักงานโต ระบบการวางแผนทดแทนตำแหน่ง หรือที่เรียกว่า Succession Plan ขององค์กรจะต้องวางไว้อย่างชัดเจน มีแนวทางในการคัดเลือกคนที่จะมาเป็นผู้สืบทอดตำแหน่งโดยอาศัยทักษะและความสามารถ มากกว่าแค่เพียงอายุงาน หรืออายุตัว การที่จะให้พนักงานเติบโตในองค์กร จะต้องประกอบไปด้วย 4 องค์กรประกอบข้างต้น บริษัทจะต้องสร้างระบบข้างต้นให้ชัดเจน และสิ่งที่สำคัญตามมาในการที่จะทำให้พนักงานอยากเติบโตไปกับบริษัทก็คือ

• ระบบการประเมินผลงานที่สะท้อนผลงานจริงๆ ของพนักงาน การที่มีระบบประเมินผลงานที่ดีนั้นจะทำให้เรารู้ว่าพนักงานคนไหนมีจุดดี จุดแข็ง จุดอ่อนตรงไหนบ้าง เพื่อที่จะได้วางแผนในการพัฒนาคนได้อย่างชัดเจน การที่พนักงานบางคนทนไม่ได้และต้องลาออกจากองค์กรไป เพื่อไปโตที่อื่น สาเหตุหลักส่วนหนึ่งก็มาจากระบบการประเมินผลงานที่ไม่เป็นธรรมนั่นเอง ซึ่งเกิดจากตัวหัวหน้างานเองไม่สามารถใช้ความเป็นธรรมในการประเมินได้ อาศัยความรู้สึก และอาศัยการเลือกที่รักมักที่ชังเป็นหลัก สุดท้ายพนักงานที่ทำงานสร้างผลงาน แต่ไม่ประจบ ก็ไม่สามารถอยู่ได้ต้องหนีไปโตที่อื่น องค์กรก็จะเหลือแต่พนักงานที่เก่งแต่ประจบ แต่ผลงานไม่ออกเลย

• ระบบการพัฒนาพนักงานตามสมรรถนะ หรือ ที่เรียกว่า Competency ซึ่งจะทำให้องค์กรมีแนวทางในการพัฒนาคนที่ชัดเจนมากขึ้น พัฒนาอย่างมีแนวทาง ไม่ไปอย่างสะเปะสะปะเหมือนในอดีต นั่นแสดงว่าองค์กรจะต้องมีการกำหนดตัวแบบสมรรถนะที่ชัดเจนว่า พนักงานที่มาทำงานในองค์กรจะต้องแสดงพฤติกรรมที่สะท้อนสมรรถนะอะไรบ้าง และแต่ละตัวจะต้องมีแนวทางในการประเมินและพัฒนาอย่างไรที่ชัดเจน

สิ่งที่กล่าวมาข้างต้นนั้น คือสิ่งที่องค์กรจะต้องดำเนินการ ถ้าเราอยากให้พนักงานเติบโตในองค์กรของเรา โดยเฉพาะพนักงานที่เก่งๆ และมีฝีมือดีๆ นั้น เป็นกลุ่มพนักงานที่เราจะต้องรักษาไว้ให้ดี ถ้าระบบของเราไม่สามารถทำให้เขารู้สึกว่าทำงานที่นี่แล้วสามารถเติบโตได้ คนเก่งเหล่านี้ก็จะพร้อมใจกันไปเติบโตที่อื่นอย่างแน่นอน แล้ววันหนึ่งองค์กรของเราก็จะขาดแคลนคนเก่ง และคนที่จะมาสืบทอดการดำเนินธุรกิจของเรา จะเหลืออยู่ก็แค่เพียงคนที่รอวันเกษียณอายุเท่านั้น



บทความโดย : คุณประคัลภ์ ปัณฑพลังกูร
ประกาศบทความโดย : www.prosofthrmi.com
 3141
ผู้เข้าชม

บทความที่เกี่ยวข้อง

การทำงาน เป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญของชีวิต ซึ่งรูปแบบของการจ้างงานไม่ได้มีเพียงงานประจำและรอเวลาเกษียณอายุเพียงเท่านั้น แต่ยังมีลักษณะการจ้างงานอีกหลายประเภท ที่สามารถตอบโจทย์การใช้ชีวิตที่แตกต่างกันออกไปได้ ในบทความนี้จะมาสรุปสั้น ๆ ให้เข้าใจได้ง่าย ๆ ว่าการจ้างงานมีกี่ประเภท และแต่ละประเภทมีข้อดีแตกต่างกันอย่างไร
การพาพนักงานไป Outing ถือเป็นหนึ่งในสวัสดิการหลัก ๆ ที่หลายองค์กรมี เพื่อดึงดูดพนักงานทั้งภายในและภายนอกให้อยากมาร่วมงานกันด้วย โดยวัตถุประสงค์หลักของการไป Outing ก็เพื่อเสริมสร้างความสามัคคี และเพื่อตอบแทนพนักงาน ให้ได้ผ่อนคลายจากการทำงานประจำวันอันตึงเครียดมายาวนาน โดยที่บริษัทจะดูแลเรื่องค่าใช้จ่ายไว้ทั้งหมด
ระบบลงเวลาเข้า-ออกของพนักงาน คือ ระบบที่ช่วยในการบันทึกเวลาการทำงานของพนักงาน ผ่านอุปกรณ์ดิจิทัลต่างๆ ตั้งแต่ เครื่องสแกนลายนิ้วมือ (Finger Scanner), สมาร์ทโฟน (Smart Phone), แท็บเล็ต (Tablet), ตลอดจนอุปกรณ์ต่างๆ ที่สามารถยืนยันตัวตนผู้ใช้งานได้อย่างชัดเจน ปลอดภัย และเชื่อมต่อสู่ระบบข้อมูลกลางอย่างระบบคลาวด์ (Cloud System) ได้ โดยจะระบุเวลาที่พนักงานเข้ามาทำงานและออกจากงานในแต่ละวัน ดูสถิติ ขาด ลา มาสาย ระบบนี้มีบทบาทสำคัญในการบริหารจัดการเวลาและการทำงานของพนักงาน ช่วยให้ฝ่ายทรัพยากรบุคคล (HR) และฝ่ายบริหารสามารถติดตามการทำงานของพนักงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงใช้ข้อมูลที่บันทึกเพื่อคำนวณเงินเดือน สวัสดิการ ค่าล่วงเวลา และการจัดทำรายงานการเข้างานได้อย่างแม่นยำ ตอบโจทย์การทำงานในธุรกิจยุคใหม่ได้อย่างสมบูรณ์แบบ
มนุษย์เงินเดือนบางคนอาจจะไม่รู้ด้วยซ้ำว่า ตัวเองมีสิทธิที่จะเรียกร้อง ค่าชดเชยจากนายจ้าง อันนี้เป็นสิทธิ์ของเรานะ พี่ทุยบอกเลยว่า เงินค่าชดเชย เป็นสิ่งที่นายจ้าง ต้องจ่าย ให้กับพนักงานหรือลูกจ้าง เพื่อช่วยเหลือในกรณีให้ออกจากงาน ซึ่งไม่ได้มาจากทำความผิดของพนักงานหรือลูกจ้าง แต่อาจจะด้วยเหตุผลบางอย่างที่จำเป็นต้องลดจำนวนพนักงานลง
ในแต่ละเดือนที่เราจ่ายเงินสมทบประกันสังคมนั้น ก็จะมีเงินส่วนหนึ่งที่จัดเก็บเข้าเป็นเงินสะสมประกันสังคม ซึ่งเงินส่วนนี้เองเราสามารถเช็คเงินสะสมประกันสังคมได้เองผ่านช่องทางออนไลน์ด้วย มาดูกันครับว่าทำยังไง แล้วยอดเงินประกันสังคมนี้ทำอะไรได้บ้าง

Employee Referral Program หรือ โครงการแนะนำพนักงาน คือระบบที่องค์กรใช้เพื่อกระตุ้นให้พนักงานที่ทำงานอยู่แนะนำบุคคลภายนอกที่มีคุณสมบัติที่เหมาะสมเข้ามาทำงานในตำแหน่งที่เปิดรับ โดยทั่วไปโครงการนี้มักมีการมอบรางวัลหรือโบนัสให้กับพนักงานที่แนะนำคนที่ถูกคัดเลือกและรับเข้าทำงานในองค์กรสำเร็จ โครงการแนะนำพนักงานนี้มีข้อดีหลายประการ เช่น การลดต้นทุนในการจ้างงาน เพิ่มคุณภาพของผู้สมัคร และสร้างความผูกพันให้กับพนักงานในองค์กร
สร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปฟรี ร้านค้าออนไลน์