การจ้างงานมีกี่ประเภท แต่ละแบบมีข้อดีอย่างไร?

การจ้างงานมีกี่ประเภท แต่ละแบบมีข้อดีอย่างไร?

             การทำงาน เป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญของชีวิต ซึ่งรูปแบบของการจ้างงานไม่ได้มีเพียงงานประจำและรอเวลาเกษียณอายุเพียงเท่านั้น แต่ยังมีลักษณะการจ้างงานอีกหลายประเภท ที่สามารถตอบโจทย์การใช้ชีวิตที่แตกต่างกันออกไปได้ ในบทความนี้จะมาสรุปสั้น ๆ ให้เข้าใจได้ง่าย ๆ ว่าการจ้างงานมีกี่ประเภท และแต่ละประเภทมีข้อดีแตกต่างกันอย่างไร

             ในปัจจุบัน การจ้างงานสามารถแบ่งออกได้เป็นหลายประเภท โดยประเภทที่พบได้บ่อย ๆ ได้แก่ การจ้างงานแบบประจำ และการจ้างงานแบบไม่ประจำ ซึ่งการเลือกรูปแบบการจ้างงานที่เหมาะสมนั้นขึ้นอยู่กับความต้องการและความจำเป็นของแต่ละบุคคล โดยควรพิจารณาถึงปัจจัยต่าง ๆ เช่น ระยะเวลาในการทำงาน สวัสดิการที่ต้องการ ความมั่นคงในการทำงาน เป็นต้น โดยแต่ละรูปแบบก็มีรายละเอียดและข้อดีแตกต่างกันไป

การจ้างงานแบบประจำ การจ้างงานที่มั่นคงและปลอดภัย

             การจ้างงานแบบประจำ (Full Time) เป็นลักษณะการจ้างงานที่ไม่มีการกำหนดระยะเวลาสิ้นสุดงาน ซึ่งลูกจ้างสามารถทำงานกับนายจ้างได้เรื่อย ๆ จนกว่าจะเกษียณอายุ หรือลาออกเอง โดยมีการกำหนดเวลาการทำงานที่ไม่ขัดต่อกฎหมายการใช้แรงงาน คือ ไม่เกิน 8 ชม./วัน หรือตามที่นายจ้างลูกจ้างตกลงกัน และไม่เกิน 48 ชม./สัปดาห์

             สำหรับสิทธิประโยชน์ที่ลูกจ้างจะได้รับ คือ เงินเดือน เงินค่าจ้าง สวัสดิการต่าง ๆ เช่น ประกันสังคม ประกันสุขภาพ ประกันอุบัติเหตุ ลาป่วย ลาพักร้อน เป็นสิ่งตอบแทนจากการทำงาน โดยการจ้างงานแบบประจำนี้ เป็นประเภทการจ้างงานยอดนิยมในสังคมปัจจุบัน เนื่องจากเป็นรูปแบบการจ้างงานที่ให้ความมั่นคงและความปลอดภัยในการทำงาน และมีสัญญาจ้างงานเป็นลายลักษณ์อักษร ซึ่งนายจ้างไม่สามารถเลิกจ้างลูกจ้างได้โดยไม่แจ้งล่วงหน้า

             ข้อดีของการจ้างงานแบบประจำ

  • ความมั่นคงในการทำงาน : ลูกจ้างจะมีความมั่นคงในการทำงาน เนื่องจากมีการทำสัญญาจ้างงาน และไม่มีการระบุระยะเวลาสิ้นสุดการจ้างงานที่แน่นอน
  • ได้รับสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ : ลูกจ้างจะได้รับเงินเดือนตอบแทน และสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ เพื่อเสริมความเป็นอยู่ที่ดีให้ตนเองและครอบครัว
  • มีโอกาสพัฒนาทักษะและความรู้ : ลูกจ้างจะมีโอกาสพัฒนาทักษะและความรู้อย่างต่อเนื่อง เนื่องจากจะได้รับการฝึกอบรมจากนายจ้าง

             การจ้างงานแบบประจำ เป็นที่นิยมในกลุ่มผู้ที่มีความต้องการความมั่นคงในการทำงานและต้องการสิทธิประโยชน์ต่างๆ ในการดำรงชีวิต เช่น ประกันสังคม ประกันสุขภาพ เป็นต้น

การจ้างงานแบบไม่ประจำ เลือกงานในฝันได้ตามต้องการ

             การจ้างงานแบบไม่ประจำ (Part Time) เป็นลักษณะการจ้างงานที่มีกำหนดระยะเวลาสิ้นสุดงาน ซึ่งจะมีการทำสัญญาหรือข้อตกลงระหว่างนายจ้างและลูกจ้างที่เกี่ยวกับรายละเอียดการทำงานต่าง ๆ เช่น วันที่มาทำงาน ชั่วโมงการทำ เวลาเข้าและเวลาออกงาน เป็นต้น

             สำหรับสิทธิประโยชน์ที่ลูกจ้างจะได้รับจะน้อยกว่าการจ้างงานแบบประจำ โดยอาจได้รับเฉพาะเงินเดือนหรือเงินค่าจ้างเท่านั้น โดยการจ้างงานแบบไม่ประจำนี้ เป็นประเภทที่นิยมในกลุ่มผู้ที่มีความต้องการทำงานชั่วคราว เช่น นักศึกษาที่ต้องการหารายได้ระหว่างเรียน หรือผู้ที่ต้องการทำงานเสริม ที่ไม่ได้มองหาความมั่นคงในการทำงาน ซึ่งสามารถแบ่งออกได้อีกหลายประเภท ดังนี้

             การจ้างงานแบบพาร์ตไทม์

             เป็นลักษณะการจ้างงานที่มีชั่วโมงการทำงานน้อยกว่าการจ้างงานแบบเต็มเวลา โดยอาจทำงานเพียงไม่กี่ชั่วโมงต่อวันหรือต่อสัปดาห์ มีจุดเด่นเรื่องความยืดหยุ่นในการทำงาน โดยลูกจ้างสามารถจัดสรรเวลาในการทำงานได้ตามความต้องการ และสามารถทำงานได้หลากหลายประเภท ซึ่งเป็นโอกาสที่ดีในการเก็บเกี่ยวประสบการณ์ทำงานก่อนสมัครงานแบบประจำ

             การจ้างงานแบบพาร์ตไทม์ เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการหารายได้เสริมหรือต้องการทำงานระหว่างเรียน

             การจ้างงานแบบสัญญาจ้างชั่วคราว

             เป็นลักษณะการจ้างงานที่มีกำหนดระยะเวลาการทำงานแน่นอน เช่น 6 เดือน 1 ปี หรือ 3 ปี โดยลูกจ้างจะได้รับสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ เช่น เงินเดือน เงินค่าจ้าง สวัสดิการต่าง ๆ เช่นเดียวกับการจ้างงานแบบประจำ แต่จะมีความมั่นคงในการทำงานน้อยกว่า เนื่องจากสัญญาจ้างงานมีกำหนดระยะเวลาสิ้นสุด

             การจ้างงานแบบสัญญาจ้างชั่วคราว เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการทดลองงานกับบริษัทหรือองค์กรต่าง ๆ เพื่อพิจารณาว่าตนเองเหมาะสมกับงานและบริษัทนั้นหรือไม่ หรือสำหรับผู้ที่ต้องการเก็บเกี่ยวประสบการณ์ทำงานก่อนสมัครงานแบบประจำ

             การจ้างงานแบบฟรีแลนซ์

             เป็นลักษณะการจ้างงานที่ไม่มีสัญญาจ้างงานเป็นลายลักษณ์อักษร โดยลูกจ้างจะทำงานเป็นครั้ง ๆ ไปตามความต้องการหรือระยะเวลาที่กำหนด โดยลูกจ้างสามารถจัดสรรเวลาในการทำงานได้ตามความต้องการ เช่น สามารถทำงานที่บ้าน หรือทำงานจากที่ใดก็ได้ในโลก ทำให้เลือกทำงานได้หลากหลายประเภท ซึ่งอาจช่วยให้ฟรีแลนซ์ได้เรียนรู้ทักษะและความรู้ใหม่ ๆ ได้อย่างรวดเร็ว รวมถึงมีอิสระในการทำงาน เช่น เลือกงานที่ชอบหรือถนัดได้ กำหนดเวลาในการทำงานได้ และตัดสินใจเกี่ยวกับงานของตนเองได้ตามต้องการ

             การจ้างงานแบบฟรีแลนซ์ เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการทำงานจากที่บ้าน หรือทำงานจากต่างประเทศ หรือสำหรับผู้ที่ต้องการทำงานในสายงานที่มีความเฉพาะทาง


ขอบคุณที่มา : www.jobtopgun.com

 130
ผู้เข้าชม

บทความที่เกี่ยวข้อง

การพาพนักงานไป Outing ถือเป็นหนึ่งในสวัสดิการหลัก ๆ ที่หลายองค์กรมี เพื่อดึงดูดพนักงานทั้งภายในและภายนอกให้อยากมาร่วมงานกันด้วย โดยวัตถุประสงค์หลักของการไป Outing ก็เพื่อเสริมสร้างความสามัคคี และเพื่อตอบแทนพนักงาน ให้ได้ผ่อนคลายจากการทำงานประจำวันอันตึงเครียดมายาวนาน โดยที่บริษัทจะดูแลเรื่องค่าใช้จ่ายไว้ทั้งหมด
ระบบลงเวลาเข้า-ออกของพนักงาน คือ ระบบที่ช่วยในการบันทึกเวลาการทำงานของพนักงาน ผ่านอุปกรณ์ดิจิทัลต่างๆ ตั้งแต่ เครื่องสแกนลายนิ้วมือ (Finger Scanner), สมาร์ทโฟน (Smart Phone), แท็บเล็ต (Tablet), ตลอดจนอุปกรณ์ต่างๆ ที่สามารถยืนยันตัวตนผู้ใช้งานได้อย่างชัดเจน ปลอดภัย และเชื่อมต่อสู่ระบบข้อมูลกลางอย่างระบบคลาวด์ (Cloud System) ได้ โดยจะระบุเวลาที่พนักงานเข้ามาทำงานและออกจากงานในแต่ละวัน ดูสถิติ ขาด ลา มาสาย ระบบนี้มีบทบาทสำคัญในการบริหารจัดการเวลาและการทำงานของพนักงาน ช่วยให้ฝ่ายทรัพยากรบุคคล (HR) และฝ่ายบริหารสามารถติดตามการทำงานของพนักงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงใช้ข้อมูลที่บันทึกเพื่อคำนวณเงินเดือน สวัสดิการ ค่าล่วงเวลา และการจัดทำรายงานการเข้างานได้อย่างแม่นยำ ตอบโจทย์การทำงานในธุรกิจยุคใหม่ได้อย่างสมบูรณ์แบบ
มนุษย์เงินเดือนบางคนอาจจะไม่รู้ด้วยซ้ำว่า ตัวเองมีสิทธิที่จะเรียกร้อง ค่าชดเชยจากนายจ้าง อันนี้เป็นสิทธิ์ของเรานะ พี่ทุยบอกเลยว่า เงินค่าชดเชย เป็นสิ่งที่นายจ้าง ต้องจ่าย ให้กับพนักงานหรือลูกจ้าง เพื่อช่วยเหลือในกรณีให้ออกจากงาน ซึ่งไม่ได้มาจากทำความผิดของพนักงานหรือลูกจ้าง แต่อาจจะด้วยเหตุผลบางอย่างที่จำเป็นต้องลดจำนวนพนักงานลง
ในแต่ละเดือนที่เราจ่ายเงินสมทบประกันสังคมนั้น ก็จะมีเงินส่วนหนึ่งที่จัดเก็บเข้าเป็นเงินสะสมประกันสังคม ซึ่งเงินส่วนนี้เองเราสามารถเช็คเงินสะสมประกันสังคมได้เองผ่านช่องทางออนไลน์ด้วย มาดูกันครับว่าทำยังไง แล้วยอดเงินประกันสังคมนี้ทำอะไรได้บ้าง

Employee Referral Program หรือ โครงการแนะนำพนักงาน คือระบบที่องค์กรใช้เพื่อกระตุ้นให้พนักงานที่ทำงานอยู่แนะนำบุคคลภายนอกที่มีคุณสมบัติที่เหมาะสมเข้ามาทำงานในตำแหน่งที่เปิดรับ โดยทั่วไปโครงการนี้มักมีการมอบรางวัลหรือโบนัสให้กับพนักงานที่แนะนำคนที่ถูกคัดเลือกและรับเข้าทำงานในองค์กรสำเร็จ โครงการแนะนำพนักงานนี้มีข้อดีหลายประการ เช่น การลดต้นทุนในการจ้างงาน เพิ่มคุณภาพของผู้สมัคร และสร้างความผูกพันให้กับพนักงานในองค์กร
การจัดกะพนักงาน คือ กระบวนการวางแผนและจัดระเบียบเวลาทำงานของพนักงานให้เหมาะสมกับความต้องการขององค์กรในแต่ละช่วงเวลา โดยแบ่งเวลาทำงานออกเป็นหลายช่วง (หรือหลายกะ) เพื่อให้มีพนักงานเพียงพอในการปฏิบัติงานตลอดเวลา เช่น ในกรณีขององค์กรที่เปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมงหรือมีความต้องการกำลังคนที่เปลี่ยนแปลงไปในแต่ละช่วงเวลา
สร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปฟรี ร้านค้าออนไลน์