• หน้าแรก

  • News

  • HR Articles

  • ข้อดีของการเป็น “มนุษย์เงินเดือน” พนักงานออฟฟิศ มีข้อดีมากกว่าที่คิด

ข้อดีของการเป็น “มนุษย์เงินเดือน” พนักงานออฟฟิศ มีข้อดีมากกว่าที่คิด

  • หน้าแรก

  • News

  • HR Articles

  • ข้อดีของการเป็น “มนุษย์เงินเดือน” พนักงานออฟฟิศ มีข้อดีมากกว่าที่คิด

ข้อดีของการเป็น “มนุษย์เงินเดือน” พนักงานออฟฟิศ มีข้อดีมากกว่าที่คิด

หลายๆ คนอาจจะกำลังลังเลกับเส้นทางชีวิตในการเลือกงานที่เหมาะสมกับตนเอง เพราะปัจจุบันมีหลากหลายอาชีพให้เลือก มีหลายสายงานให้ได้ลองทำ หากใครชอบความเป็นอิสระอาจจะเริ่มจากการทำงานฟรีแลนซ์ หรืออีกหนึ่งรูปแบบที่คนส่วนใหญ่เลือกทำงานกันคือ การทำงานในออฟฟิศ หรือที่เราเรียกกันว่า "มนุษย์เงินเดือน" แน่นอนว่ามันมีทั้งข้อดีและข้อเสียแตกต่างกันไป แต่บทความนี้เราจะมาบอกข้อดีของการทำงานเป็นมนุษย์เงินเดือน ที่มีข้อดีอยู่มากมายจนบางทีคุณอาจจะคาดไม่ถึงด้วยซ้ำ งั้นเรามาดูกันสิว่าการที่เราเป็นมนุษย์เงินเดือนนั้นมีข้อดีอะไรบ้าง


  • ความมั่นคงทางการเงิน มีเงินเดือนเข้าบัญชีทุกเดือนไม่ขาด

    มนุษย์เงินเดือนจะได้รับเงินเดือนประจำทุกเดือน ทำให้มีรายได้ที่แน่นอน สามารถวางแผนการใช้จ่ายและจัดการเงินได้ง่ายขึ้น
  • สวัสดิการและสิทธิประโยชน์มากมาย

    หลายองค์กรมีสวัสดิการดี ๆ ให้กับพนักงานออฟฟิศ เช่น ประกันสุขภาพ, ประกันสังคม, กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ, วันหยุดพักร้อน, และโบนัส สิ่งเหล่านี้ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ไม่เพียงเท่านั้นยังช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับพนักงานในการใช้ชีวิต และเพิ่มคุณค่าในการทำงาน สร้างความสุขในที่ทำงานอีกด้วย 
  • ได้พัฒนาตนเอง ได้ความก้าวหน้าในอาชีพ

    การเป็นพนักงานประจำในองค์กรใหญ่ ๆ มักมีโอกาสได้รับการอบรมและฝึกทักษะใหม่ ๆ ที่ช่วยเพิ่มศักยภาพในการทำงาน เมื่อได้สั่งสมประสบการณ์ในการทำงานจะช่วยทำให้คุณมีความสามารถที่หลากหลายมากขึ้น ได้เรียนรู้ระบบการทำงานในระดับสากล และสามารถนำประสบการณ์ไปใช้ต่อยอดในการทำงานที่อื่นได้ ส่งผลช่วยให้ในอนาคตได้เลื่อนตำแหน่ง ซึ่งทำให้พนักงานมีโอกาสเติบโตในสายอาชีพ พนักงาน
  • ชั่วโมงการทำงานที่แน่นอน

    โดยทั่วไป มนุษย์เงินเดือนจะมีชั่วโมงการทำงานที่ชัดเจน ทำให้สามารถจัดสมดุลระหว่างการทำงานและชีวิตส่วนตัวได้
  • สิทธิ์ในการลา ลาป่วย ลากิจ ลาพักร้อน

    มนุษย์เงินเดือนมักจะได้รับสิทธิ์ในการลาป่วย, ลากิจ, และลาพักร้อนตามกฎหมายและนโยบายของบริษัท ในส่วนของการลาพักร้อน พนักงานได้โอกาสพักผ่อนจากความเครียดในการทำงาน  สร้างความสุข และฟื้นฟูจิตใจ ทำให้กลับมาทำงานด้วยความสดชื่นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น เมื่อพนักงานมีความสุขและได้รับการพักผ่อนอย่างเพียงพอ จะส่งผลให้องค์กรได้รับประโยชน์จากการทำงานที่มีประสิทธิภาพและมีความคิดสร้างสรรค์มากขึ้น
  • ชาวออฟฟิศมีโอกาสทางการเงินที่ดีกว่า

    เนื่องจากพนักงานออฟฟิศได้เงินเดือนเป็นรายรับประจำและมีความแน่นอน หากพนักงานต้องการกู้เงินจากธนาคาร เพื่อไปผ่อนรถ ผ่อนบ้าน หรืออื่นๆ มักจะได้รับการพิจารณาการอนุมัติง่ายกว่าคนที่ไม่ได้ทำงานประจำ ดังนั้นการทำงานในสภาพแวดล้อมที่มั่นคงยังช่วยสร้างเครดิตและความน่าเชื่อถือในสายตาของธนาคารหรือสถาบันการเงิน ทำให้การขอสินเชื่อหรือกู้ยืมเงินเป็นเรื่องที่ทำได้ง่ายกว่า
  • การได้รับการคุ้มครองทางกฎหมาย

    พนักงานประจำมีสิทธิ์ตามกฎหมายแรงงานที่ปกป้องสิทธิ์ในการทำงาน เช่น ค่าชดเชยเมื่อถูกเลิกจ้าง และการปฏิบัติอย่างเป็นธรรมจากนายจ้าง

สรุป แม้จะมีข้อดีในด้านความมั่นคงทางการเงินและสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าบางครั้งมนุษย์เงินเดือนก็อาจเผชิญกับความท้าทายในเรื่องของการจัดสมดุลระหว่างชีวิตการทำงานและชีวิตส่วนตัว เช่น ชั่วโมงการทำงานที่ยาวนาน หรือความเครียดจากการทำงานประจำก็เป็นได้ แต่อย่างไรก็ตามจะเห็นได้ว่าข้อดีของการเป็นมนุษย์เงินเดือน นั้นมีไม่น้อยเลยทีเดียว

 314
ผู้เข้าชม

บทความที่เกี่ยวข้อง

AI (Artificial Intelligence) หรือ ปัญญาประดิษฐ์ คือเทคโนโลยีที่ช่วยให้เครื่องจักรหรือคอมพิวเตอร์มีความสามารถในการคิดและทำงานในลักษณะที่คล้ายกับมนุษย์ โดยการนำข้อมูลจำนวนมากมาประมวลผลและตัดสินใจผ่านกระบวนการที่เรียกว่า การเรียนรู้ของเครื่อง (Machine Learning) หรือ การเรียนรู้เชิงลึก (Deep Learning) แล้ว AI จะเข้ามามีบทบาทในการพัฒนางาน HR อย่างไร

เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการจัดการบริหารงานบุคคล และพัฒนาบุคลากรในองค์กร โดยใช้ในการประเมินพนักงานตามสองเกณฑ์หลัก ได้แก่ ศักยภาพ (Potential) และผลงาน (Performance) เครื่องมือนี้ช่วยให้ผู้บริหารสามารถระบุพนักงานที่มีศักยภาพสูงและผลงานดี เพื่อพัฒนาและเตรียมพวกเขาให้รับบทบาทที่สำคัญในอนาคต ได้รับการนำเสนอครั้งแรกในปี 1970 โดยบริษัท McKinsey & Company โดยเป็นเครื่องมือสำหรับประเมินศักยภาพและประสิทธิภาพการทำงานของพนักงาน และนับตั้งแต่นั้นมา เครื่องมือนี้ก็ได้รับความนิยมและถูกใช้กันอย่างแพร่หลายโดยองค์กรต่าง ๆ ทั่วโลก
เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการจัดการบริหารงานบุคคล และพัฒนาบุคลากรในองค์กร โดยใช้ในการประเมินพนักงานตามสองเกณฑ์หลัก ได้แก่ ศักยภาพ (Potential) และผลงาน (Performance) เครื่องมือนี้ช่วยให้ผู้บริหารสามารถระบุพนักงานที่มีศักยภาพสูงและผลงานดี เพื่อพัฒนาและเตรียมพวกเขาให้รับบทบาทที่สำคัญในอนาคต ได้รับการนำเสนอครั้งแรกในปี 1970 โดยบริษัท McKinsey & Company โดยเป็นเครื่องมือสำหรับประเมินศักยภาพและประสิทธิภาพการทำงานของพนักงาน และนับตั้งแต่นั้นมา เครื่องมือนี้ก็ได้รับความนิยมและถูกใช้กันอย่างแพร่หลายโดยองค์กรต่าง ๆ ทั่วโลก
Background Checks คือการตรวจสอบประวัติอย่างละเอียด ครอบคลุมทั้งด้านข้อมูลส่วนตัว, ประวัติอาชญากรรม, ภาวะทางการเงิน, การศึกษา ตลอดจนบริบทอื่น ๆ ที่ส่งผลกับตำแหน่งที่สมัครเข้ามา
สวัสดิการที่องค์กรมอบให้แก่พนักงาน กับ สวัสดิการที่พนักงานต้องการ นั้น บางเรื่องก็เป็นสิ่งที่ตรงกัน ส่วนบางเรื่องก็เป็นสิ่งที่ต่างความเห็นกัน ในเรื่องนี้จากทาง Jobthai (jobthai.com) เคยทำบทความนำเสนอผลการสำรวจความคิดเห็นจากคนทำงานทั่วประเทศในประเด็นที่ว่า “สวัสดิการที่คนทำงานต้องการจากองค์กร” ซึ่งเป็นการทำผลสำรวจจากคนทำงานที่เป็นพนักงานทั่วไปจำนวน 7,420 คน ทั่วประเทศ โดยมีผลการสำรวจออกมาดังนี้
เคยได้ยินคำว่า Flexible Time กันอยู่บ่อย ๆ ว่าแต่เอ๊ะ มันคืออะไร ??
AQ หรือ Adversity Quotient คือความฉลาดในการรับมือกับปัญหา ทั้งสภาพกาย และจิตใจ ถูกบัญญัติขึ้นโดยพอล สโตลทซ์ (Paul Stoltz) เมื่อปี 1997 ว่า เป็นวิธีการประเมินความสามารถของแต่ละคนในการรับมือ และตอบสนองต่อความทุกข์ยาก โดยสถาบันชั้นนำอย่างฮาร์วาร์ด (Harvard), สถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ (Massachusetts Institute of Technology หรือ MIT) และคาร์เนกีเมลลอน (Carnegie Mellon) ต่างก็ใช้ AQ เป็น ‘Golden Standard’ เพื่อประเมินว่า คนนั้นๆ จัดการกับความท้าทายอย่างไรด้วยกันทั้งสิ้น และยังค้นพบอีกด้วยว่า AQ มีความสัมพันธ์โดยตรงกับ ‘การเป็นผู้นำที่ดี’
สร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปฟรี ร้านค้าออนไลน์