หนังสือสัญญาจ้างงาน ก่อนเซ็นต้องดูอะไรบ้าง

หนังสือสัญญาจ้างงาน ก่อนเซ็นต้องดูอะไรบ้าง



ในวิถีของการทำงาน เมื่อเรามีคุณสมบัติตรงตามที่นายจ้างต้องการ และสามารถผ่านการสัมภาษณ์ จนสามารถเข้าทำงานในตำแหน่งที่ต้องการได้แล้ว เอกสารชิ้นแรก ๆ ที่เราจะได้จากบริษัทหรือหัวหน้างานที่เราสมัครงานคือ “หนังสือสัญญาจ้างงาน” ที่เราจะต้องเซ็นเพื่อให้กระบวนการเริ่มทำงานสมบรูณ์ แต่ก่อนที่จะเซ็นเอกสารวันนี้เรามาดูกันว่า ก่อนจะเซ็นเอกสารฉบับนี้ เราต้องทำอย่างไรบ้าง

1.อ่านสองรอบเป็นอย่างน้อย

สิ่งแรกที่เราจะต้องทำคือการอ่านสัญญาโดยละเอียด ไม่ว่าจะเป็นข้อกำหนดต่าง ๆ เงื่อนไข สวัสดิการ หรือว่ารายได้ เราต้องอ่านให้ละเอียดรอบคอบ เพราะสิ่งเหล่านี้จะมีผลต่อเราตลอดระยะเวลาในการทำงานที่นี่ ดังนั้นเราควรอ่านให้ละเอียด ชนิดที่ว่าต้องอ่านทุกบรรทัดห้ามข้ามโดยเด็ดขาด

2.ตำแหน่งและความรับผิดชอบต้องชัดเจน

สิ่งที่สองที่ควรดูในสัญญาจ้างคือ ตำแหน่งและความรับผิดชอบของเรา ว่าตรงกับตำแหน่งที่เราได้สัมภาษณ์หรือไม่ หากไม่ตรงควรที่จะสอบถามฝ่ายทรัพยากรบุคคลของบริษัทโดยทันที เพื่อสอบถามถึงรายละเอียดของตำแหน่งงานและความรับผิดชอบให้ชัดเจน เนื่องจากหากเราหลับหูหลับตาเซ็นสัญญา โดยที่ไม่อ่านรายละเอียดของงาน อาจจะได้ทำงานคนละตำแหน่งที่สมัครเข้ามาก็ได้

นอกจากนี้ค่าตอบแทนรวมไปถึงค่าล่วงเวลาในการทำงาน ก็ควรดูให้ชัดเจนว่า ตรงกับสิ่งที่ฝ่ายทรัพยากรบุคคลหรือนายจ้างระบุไว้หรือไม่ หากว่าไม่ตรงกับที่ได้ตกลงกันไว้ ก็ควรที่จะทักท้วงโดยทันที 

3.เงื่อนไขและกฎของบริษัท
สัญญาจ้างงานนอกจากจะระบุรายละเอียดของงานแล้ว ยังมีเรื่องของเงื่อนไขและกฎ ที่เราจะต้องปฏิบัติตาม ไม่ว่าจะเป็นเวลาเข้างาน ชั่วโมงในการทำงาน วันหยุด วันลา ระยะเวลาในการทดลองงาน รวมไปถึงเงื่อนไขที่หากเราลาออกจากบริษัท เราจะต้องแจ้งแผนกทรัพยากรบุคคล ล่วงหน้ากี่วัน เป็นต้น 

4.สวัสดิการต่าง ๆ 

แม้ว่าในการรับสมัครงานหรือสัมภาษณ์งาน ฝ่ายทรัพยากรบุคคลจะแจ้งให้เราทราบถึงสวัสดิการต่าง ๆ ของบริษัทให้ผู้สมัครรับทราบแล้ว แต่ว่าเราควรที่จะดูว่าในสัญญาจ้างนั้นมีสวัสดิการต่าง ๆ ตรงกับที่ได้รับแจ้งหรือไม่ รวมถึงเรื่องของภาษีและกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ จะทำให้เราวางแผนได้ง่ายขึ้น 

ไม่ว่าจะเป็นสวัสดิการในเรื่องของสุขภาพ การกู้ยืมสินเชื่อต่าง ๆ การลาคลอด การเดินทาง รวมไปถึงกิจกรรมต่าง ๆ เป็นต้น ที่หากเราอ่านไม่ถี่ถ้วนอาจจะเสียสิทธิในเรื่องเหล่านี้ก็เป็นได้

5.วันแรกที่จะต้องเข้าทำงาน 

การทำงานวันแรกนั้นมีความหมายอย่างมากต่อหน้าที่การงานและสภาพจิตใจ ดังนั้นไม่มีใครที่อยากจะทำงานสายตั้งแต่วันแรกหรือหนักกว่านั้นคือลืมว่า วันแรกที่ต้องทำงานวันไหน ซึ่งเรื่องนี้จะสร้างภาพลักษณ์ที่ไม่ดีให้กับตัวเราตลอดระยะเวลาในการทำงานที่นี่ก็เป็นได้ 

6.เก็บสำเนาเอาไว้ด้วย

หลังจากที่เราเซ็นหนังสือสัญญาจ้างงานแล้ว เราควรที่จะที่เก็บสำเนาของเอกสารเอาไว้ เนื่องจากในบางครั้งหากเกิดข้อพิพาทขึ้นมา เราก็สามารถที่จะอ้างอิงกฎรวมถึงเงื่อนไขต่าง ๆ ที่ระบุเอาไว้ในสัญญาได้ จะทำให้เราไม่เสียเปรียบ

แต่ในขณะเดียวกันสัญญาจ้างงานก็ไม่ใช่เอกสารที่สามารถเปิดเผยในพื้นที่สาธารณะได้ เพราะเอกสารประเภทนี้ มักที่จะมีความลับและข้อมูลของบริษัทอยู่ การที่นำเอาเอกสารเหล่านี้มาเปิดเผยอาจจะทำให้เกิดการฟ้องร้องขึ้นมาได้ 

7.เซ็นหนังสือสัญญาจ้างงานก่อนลาออกจากที่ทำงานเก่าเสมอ

หลาย ๆ บริษัทรวมถึงนายจ้างแม้ว่าจะมีการตกลงจ้างงานกันแบบปากเปล่าแล้ว แต่ก็มีหลาย ๆ ครั้งที่พอใกล้จะถึงวันที่จะเริ่มงานก็มีการยกเลิกการจ้างงานก็มี ดังนั้นเพื่อเป็นการปกป้องตัวเราเอง เราควรที่จะมีการเซ็นต์สัญญาในที่ทำงานใหม่ทุกครั้งก่อนที่จะเข้าทำงาน เพราะเป็นการการันตีว่าเราได้เข้าทำงานอย่างแน่นอน 

ากคุณไม่ทำเช่นนี้อาจจะทำให้เกิดเหตุการณ์ที่ไม่มีใครอยากเจอ อย่างการลาออกไปแล้ว แต่กลับไม่ได้ทำงาน เนื่องจากการยกเลิกการจ้างงานหรือปัจจัยอื่น ๆ  ซึ่งหากคุณมีเงินเก็บสำรองอาจจะพอเอาตัวรอดไปได้จนกว่าจะหางานใหม่ได้ แต่หากคุณไม่ได้มีเงินสำรองเก็บไว้ ชีวิตของคุณอาจจะเข้าสู่วิกฤตได้เลยทีเดียว

อย่างไรก็ตามเราควรดูในส่วนของวันที่เริ่มงานกับวันที่ลาออกให้ดีว่า สามารถเริ่มงานได้ในวันไหน ไม่งั้นอาจจะเกิดปัญหาตามมาก็เป็นได้ 

 

สามารถอ่านบทความน่าสนใจอื่นๆได้ ที่นี่ คลิก!


ที่มา : Link

 1625
ผู้เข้าชม

บทความที่เกี่ยวข้อง

แน่นอนว่าปัจจุบันเทคโนโลยีกลายเป็นทักษะที่มีความสำคัญอย่างมากที่ทุกสาขาอาชีพต้องมีความเกี่ยวข้องไม่มากก็น้อย หากได้ทำงานร่วมกับมนุษย์ก็จะเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพงานให้ดียิ่งขึ้น โดยทาง jobthai ได้รวบรวมทักษะสำคัญของคนที่ทำงานในปี 2025 ที่ต้องมีติดตัวไว้
AI (Artificial Intelligence) หรือ ปัญญาประดิษฐ์ คือเทคโนโลยีที่ช่วยให้เครื่องจักรหรือคอมพิวเตอร์มีความสามารถในการคิดและทำงานในลักษณะที่คล้ายกับมนุษย์ โดยการนำข้อมูลจำนวนมากมาประมวลผลและตัดสินใจผ่านกระบวนการที่เรียกว่า การเรียนรู้ของเครื่อง (Machine Learning) หรือ การเรียนรู้เชิงลึก (Deep Learning) แล้ว AI จะเข้ามามีบทบาทในการพัฒนางาน HR อย่างไร
หลายๆ คนอาจจะกำลังลังเลกับเส้นทางชีวิตในการเลือกงานที่เหมาะสมกับตนเอง เพราะปัจจุบันมีหลากหลายอาชีพให้เลือก มีหลายสายงานให้ได้ลองทำ หากใครชอบความเป็นอิสระอาจจะเริ่มจากการทำงานฟรีแลนซ์ หรืออีกหนึ่งรูปแบบที่คนส่วนใหญ่เลือกทำงานกันคือ การทำงานในออฟฟิศ หรือที่เราเรียกกันว่า "มนุษย์เงินเดือน" แน่นอนว่ามันมีทั้งข้อดีและข้อเสียแตกต่างกันไป แต่บทความนี้เราจะมาบอกข้อดีของการทำงานเป็นมนุษย์เงินเดือน ที่มีข้อดีอยู่มากมายจนบางทีคุณอาจจะคาดไม่ถึงด้วยซ้ำ งั้นเรามาดูกันสิว่าการที่เราเป็นมนุษย์เงินเดือนนั้นมีข้อดีอะไรบ้าง

เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการจัดการบริหารงานบุคคล และพัฒนาบุคลากรในองค์กร โดยใช้ในการประเมินพนักงานตามสองเกณฑ์หลัก ได้แก่ ศักยภาพ (Potential) และผลงาน (Performance) เครื่องมือนี้ช่วยให้ผู้บริหารสามารถระบุพนักงานที่มีศักยภาพสูงและผลงานดี เพื่อพัฒนาและเตรียมพวกเขาให้รับบทบาทที่สำคัญในอนาคต ได้รับการนำเสนอครั้งแรกในปี 1970 โดยบริษัท McKinsey & Company โดยเป็นเครื่องมือสำหรับประเมินศักยภาพและประสิทธิภาพการทำงานของพนักงาน และนับตั้งแต่นั้นมา เครื่องมือนี้ก็ได้รับความนิยมและถูกใช้กันอย่างแพร่หลายโดยองค์กรต่าง ๆ ทั่วโลก
เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการจัดการบริหารงานบุคคล และพัฒนาบุคลากรในองค์กร โดยใช้ในการประเมินพนักงานตามสองเกณฑ์หลัก ได้แก่ ศักยภาพ (Potential) และผลงาน (Performance) เครื่องมือนี้ช่วยให้ผู้บริหารสามารถระบุพนักงานที่มีศักยภาพสูงและผลงานดี เพื่อพัฒนาและเตรียมพวกเขาให้รับบทบาทที่สำคัญในอนาคต ได้รับการนำเสนอครั้งแรกในปี 1970 โดยบริษัท McKinsey & Company โดยเป็นเครื่องมือสำหรับประเมินศักยภาพและประสิทธิภาพการทำงานของพนักงาน และนับตั้งแต่นั้นมา เครื่องมือนี้ก็ได้รับความนิยมและถูกใช้กันอย่างแพร่หลายโดยองค์กรต่าง ๆ ทั่วโลก
Background Checks คือการตรวจสอบประวัติอย่างละเอียด ครอบคลุมทั้งด้านข้อมูลส่วนตัว, ประวัติอาชญากรรม, ภาวะทางการเงิน, การศึกษา ตลอดจนบริบทอื่น ๆ ที่ส่งผลกับตำแหน่งที่สมัครเข้ามา
สวัสดิการที่องค์กรมอบให้แก่พนักงาน กับ สวัสดิการที่พนักงานต้องการ นั้น บางเรื่องก็เป็นสิ่งที่ตรงกัน ส่วนบางเรื่องก็เป็นสิ่งที่ต่างความเห็นกัน ในเรื่องนี้จากทาง Jobthai (jobthai.com) เคยทำบทความนำเสนอผลการสำรวจความคิดเห็นจากคนทำงานทั่วประเทศในประเด็นที่ว่า “สวัสดิการที่คนทำงานต้องการจากองค์กร” ซึ่งเป็นการทำผลสำรวจจากคนทำงานที่เป็นพนักงานทั่วไปจำนวน 7,420 คน ทั่วประเทศ โดยมีผลการสำรวจออกมาดังนี้
สร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปฟรี ร้านค้าออนไลน์