หมวดคำถามสัมภาษณ์งานภาษาอังกฤษที่ HR ควรเตรียมตัว

หมวดคำถามสัมภาษณ์งานภาษาอังกฤษที่ HR ควรเตรียมตัว


การสัมภาษณ์งานภาษาอังกฤษ (Job Interview in English)
 
นั้นกลายมาเป็นมาตรฐานสำหรับบริษัทส่วนใหญ่ไปโดยปริยายแล้ว ฝ่ายทรัพยากรบุคคล (HR) มักจะเพิ่มการสัมภาษณ์งานช่วงนี้เข้ามาเพื่อทดสอบและประเมินศักยภาพของผู้สมัครงานแต่ละคนด้วย ถึงแม้ว่าบางบริษัทอาจจะไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลักในการทำงานก็ตาม แต่ยุคปัจจุบันภาษาก็มีความสำคัญในทุกมิติของการทำงานด้วยเช่นกัน ไม่เพียงแต่ผู้สมัครจะเตรียมตัวในการตอบคำถามในส่วนนี้มาเป็นอย่างดีแล้ว ผู้สัมภาษณ์งานเองก็ควรจะต้องเตรียมตัวในส่วนนี้ให้ดีด้วยเช่นกัน เบื้องต้นอาจเริ่มด้วยการวางแผนในเรื่องคำถามภาษาอังกฤษ ตลอดจนลำดับการสัมภาษณ์ที่เอื้อประโยชน์ต่อการสนทนาที่ลื่นไหล ไปจนถึงการเช็คความถูกต้องและวัตถุประสงค์ของคำถาม เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพให้มากที่สุด

สิ่งที่ฝ่ายทรัพยากรบุคคล (HR) ควรทำอันดับแรกหากมีการสัมภาษณ์งานภาษาอังกฤษก็คือการเช็คระดับความสามารถทางภาษาของผู้สมัคร และจัดผู้สัมภาษณ์ให้มีระดับความรู้ทางภาษาที่เท่าเทียมกันหรือเหนือกว่า เพื่อประโยชน์ดังนี้

+ ความลื่นไหลในการสนทนา : ยิ่งระดับภาษาดีเท่าไรยิ่งส่งผลต่อความลื่นไหลของบทสนทนาอย่างยิ่ง โดยเฉพาะกรณีที่ผู้สมัครงานมีความรู้ทางภาษาที่ดี และภาษาจำเป็นต่อการทำงาน ก็ควรเลือกผู้ที่เก่งภาษามาสัมภาษณ์งาน ทั้งนี้เพื่อความลื่นไหลของบทสนทนา และการตอบโต้กันไปมาที่ไม่ใช่แค่ถามไปแล้วตอบมาเท่านั้น

+ ความน่าเชื่อถือของบริษัท : แน่นอนว่าระดับภาษาของผู้สัมภาษณ์สามารถสะท้อนความน่าเชื่อถือตลอดจนความเป็นผู้เชี่ยวชาญของบริษัทได้เป็นอย่างดี หากบริษัทเลือกผู้สัมภาษณ์ที่มีความสามารถต่ำกว่าผู้สมัคร อาจเกิดผลเสียต่อภาพลักษณ์บริษัทได้ และอาจทำให้ผู้สมัครประเมินบริษัทในแง่ไม่ดี หรืออาจไม่อยากมาร่วมงานได้เช่นกัน แต่ตรงกันข้ามการเลือกผู้สัมภาษณ์ที่ดีก็สะท้อนถึงความใส่ใจของบริษัทได้

+ การได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและไม่ตกหล่นข้อมูลสำคัญ :การคัดเลือกผู้สัมภาษณ์ที่มีระดับภาษาที่ดีนั้นย่อมทำให้สามารถสื่อสารหรือรับฟังข้อมูลได้ถูกต้องกว่า ไม่ตกหล่นข้อมูลสำคัญ โดยเฉพาะตำแหน่งที่ภาษานั้นเป็นสิ่งจำเป็นในการทำงาน การเลือกผู้ที่ไม่มีความรู้ทางภาษาที่ดีไปสัมภาษณ์ ก็อาจทำให้ข้อมูลตกหล่น หรืออาจทำให้การประเมินคะแนนผู้สมัครงานไม่ถูกต้องได้เช่นกัน เป็นผลเสียทั้งบริษัทและผู้สมัครงานอีกด้วย

1.หมวดคำถามพื้นฐานทั่วไป / คำถามที่เกี่ยวกับผู้สมัคร (General Question & Candidate Biography)  

Please tell me about yourself. / Please introduce yourself.  

  • แนะนำตัวของคุณ/เล่าเรื่องราวของคุณให้เรารู้จักหน่อย

How about your educational Background?

  • ประวัติทางการศึกษาของคุณเป็นอย่างไรบ้าง

What would you describe about your personality?

  • ลักษณะนิสัยของคุณเป็นอย่างไร

What are your strengths and weaknesses?

  • อะไรคือจุดแข็งและจุดอ่อนของคุณ

What are your hobbies?

  • งานอดิเรกของคุณคืออะไร

2.หมวดคำถามเกี่ยวกับประสบการณ์การทำงานและตำแหน่งงานที่สมัคร (Working Experience & The Specific Job) 

Please tell me about your working experience.

  • ช่วยเล่าประสบการณ์การทำงานของคุณที่ผ่านมาให้ฟังหน่อย

What are you doing in your current job?

  • คุณทำอะไรบ้างในตำแหน่งงานปัจจุบัน

Why are you interested in this position?

  • ทำไมคุณจึงสนใจสมัครงานในตำแหน่งนี้

What skills do you think are needed for this position?

  • ทักษะอะไรที่คุณคิดว่ามีความจำเป็นต่อการทำงานในตำแหน่งนี้

Do you think you’re qualified for this position?

  • คุณคิดว่าคุณสมบัติของคุณเหมาะสมกับตำแหน่งนี้หรือไม่ อย่างไร

Why Should we hire you?

  • เหตุใดเราถึงต้องจ้างงานคุณ

3.หมวดคำถามเกี่ยวกับทักษะในการแก้ปัญหาและบริหารจัดการ (Problem Solving & Management Skills) 

How do you handle pressure?

  • คุณมีวิธีจัดการกับความกดดันอย่างไรบ้าง

Please describe a difficult work situation and how you overcame it.

  • โปรดอธิบายสถานการณ์การทำงานที่ผ่านมาของคุณที่คิดว่ายากที่สุด และคุณผ่านมันไปได้อย่างไร

What was your biggest failure and the most successful in career and how do you handle both situations?

  • อะไรคือสิ่งที่ล้มเหลวครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดและอะไรคือสิ่งที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในเรื่องงาน คุณจัดการกับสองสถานการณ์นั้นอย่างไร

Please tell me about a time you made a mistake.

  • โปรดเล่าเกี่ยวกับช่วงเวลาที่คุณทำอะไรผิดพลาดให้ฟังหน่อย

What motivates you?

  • อะไรที่คือแรงกระตุ้นในการทำงานที่ดีที่สุดสำหรับคุณ

What is the most challenging about your job?

  • อะไรคือความท้าทายที่สุดในการทำงานของคุณ

How do you deal with the working deadline?

  • คุณมีวิธีการจัดการในเรื่องเส้นตายในการทำงานอย่างไร

4.หมวดคำถามเกี่ยวกับทัศนคติและวิสัยทัศน์ (Attitude and Vision) 

What are your career goals?

  • อะไรคือเป้าหมายในอาชีพของคุณ

What do you see yourself in next year and the next decade?

  • คุณจะเห็นตัวคุณเป็นอะไร/อย่างไรในปีหน้าและอีก 10 ปีข้างหน้า

What does success mean to you?

  • นิยามของความสำเร็จของคุณคืออะไร

What do you think about teamwork?

  • คุณคิดอย่างไรกับการทำงานเป็นทีม

What is your dream job?

  • อะไรคืองานในฝันของคุณ

5.หมวดคำถามเกี่ยวกับไหวพริบปฎิภาณและความรอบรู้ (Resourcefulness & General Knowledge) 

What are you doing in your free time?

  • เวลาว่างคุณชอบทำอะไร

How about your hobby?

  • งานอดิเรกของคุณคืออะไร

What is your most interesting news in this week?

  • ข่าวไหนในรอบสัปดาห์นี้ที่คุณสนใจมากที่สุด

What is your the most favorite travel?

  • การเดินทางท่องเที่ยวครั้งไหนที่คุณชอบมากที่สุด

What is the latest movie that you see?

  • ภาพยนตร์เรื่องล่าสุดที่คุณดูคือเรื่องอะไร

How about your vacation plan in this year?

  • คุณวางแผนวันหยุดในปีนี้อย่างไรบ้าง
สำหรับการสัมภาษณ์งานในภาษาที่สองหรือภาษาอื่นๆ ที่ไม่ใช่ภาษาไทยนั้น แน่นอนว่าทั้งผู้สมัครและผู้สัมภาษณ์ที่ไม่คุ้นเคยหรือเชี่ยวชาญด้านภาษาย่อมเกิดความตื่นเต้นและประหม่าเช่นกัน แต่ฝ่ายทรัพยากรบุคคลก็ควรจะเตรียมตัวให้ดีเพื่อลดความประหม่าในการสัมภาษณ์งานภาษาอังกฤษนี้ โดยการเตรียมคำถาม ลำดับการถาม ไปจนถึงเช็คความถูกต้องในด้านภาษาด้วย การเตรียมตัวที่ดีนั้นไม่ใช้ได้ประโยชน์เฉพาะกับบทสนทนาที่ลื่นไหลเท่านั้น แต่เพื่อภาพลักษณ์ที่ดีตลอดจนความน่าเชื่อถือขององค์กรที่ผู้สมัครงานจะสัมผัสได้ตั้งแต่แรกพบเช่นกัน

สามารถอ่านบทความน่าสนใจอื่นๆได้ ที่นี่ คลิก!!


ที่มา : th.hrnote.asia
 11415
ผู้เข้าชม

บทความที่เกี่ยวข้อง

AI (Artificial Intelligence) หรือ ปัญญาประดิษฐ์ คือเทคโนโลยีที่ช่วยให้เครื่องจักรหรือคอมพิวเตอร์มีความสามารถในการคิดและทำงานในลักษณะที่คล้ายกับมนุษย์ โดยการนำข้อมูลจำนวนมากมาประมวลผลและตัดสินใจผ่านกระบวนการที่เรียกว่า การเรียนรู้ของเครื่อง (Machine Learning) หรือ การเรียนรู้เชิงลึก (Deep Learning) แล้ว AI จะเข้ามามีบทบาทในการพัฒนางาน HR อย่างไร
หลายๆ คนอาจจะกำลังลังเลกับเส้นทางชีวิตในการเลือกงานที่เหมาะสมกับตนเอง เพราะปัจจุบันมีหลากหลายอาชีพให้เลือก มีหลายสายงานให้ได้ลองทำ หากใครชอบความเป็นอิสระอาจจะเริ่มจากการทำงานฟรีแลนซ์ หรืออีกหนึ่งรูปแบบที่คนส่วนใหญ่เลือกทำงานกันคือ การทำงานในออฟฟิศ หรือที่เราเรียกกันว่า "มนุษย์เงินเดือน" แน่นอนว่ามันมีทั้งข้อดีและข้อเสียแตกต่างกันไป แต่บทความนี้เราจะมาบอกข้อดีของการทำงานเป็นมนุษย์เงินเดือน ที่มีข้อดีอยู่มากมายจนบางทีคุณอาจจะคาดไม่ถึงด้วยซ้ำ งั้นเรามาดูกันสิว่าการที่เราเป็นมนุษย์เงินเดือนนั้นมีข้อดีอะไรบ้าง

เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการจัดการบริหารงานบุคคล และพัฒนาบุคลากรในองค์กร โดยใช้ในการประเมินพนักงานตามสองเกณฑ์หลัก ได้แก่ ศักยภาพ (Potential) และผลงาน (Performance) เครื่องมือนี้ช่วยให้ผู้บริหารสามารถระบุพนักงานที่มีศักยภาพสูงและผลงานดี เพื่อพัฒนาและเตรียมพวกเขาให้รับบทบาทที่สำคัญในอนาคต ได้รับการนำเสนอครั้งแรกในปี 1970 โดยบริษัท McKinsey & Company โดยเป็นเครื่องมือสำหรับประเมินศักยภาพและประสิทธิภาพการทำงานของพนักงาน และนับตั้งแต่นั้นมา เครื่องมือนี้ก็ได้รับความนิยมและถูกใช้กันอย่างแพร่หลายโดยองค์กรต่าง ๆ ทั่วโลก
เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการจัดการบริหารงานบุคคล และพัฒนาบุคลากรในองค์กร โดยใช้ในการประเมินพนักงานตามสองเกณฑ์หลัก ได้แก่ ศักยภาพ (Potential) และผลงาน (Performance) เครื่องมือนี้ช่วยให้ผู้บริหารสามารถระบุพนักงานที่มีศักยภาพสูงและผลงานดี เพื่อพัฒนาและเตรียมพวกเขาให้รับบทบาทที่สำคัญในอนาคต ได้รับการนำเสนอครั้งแรกในปี 1970 โดยบริษัท McKinsey & Company โดยเป็นเครื่องมือสำหรับประเมินศักยภาพและประสิทธิภาพการทำงานของพนักงาน และนับตั้งแต่นั้นมา เครื่องมือนี้ก็ได้รับความนิยมและถูกใช้กันอย่างแพร่หลายโดยองค์กรต่าง ๆ ทั่วโลก
Background Checks คือการตรวจสอบประวัติอย่างละเอียด ครอบคลุมทั้งด้านข้อมูลส่วนตัว, ประวัติอาชญากรรม, ภาวะทางการเงิน, การศึกษา ตลอดจนบริบทอื่น ๆ ที่ส่งผลกับตำแหน่งที่สมัครเข้ามา
สวัสดิการที่องค์กรมอบให้แก่พนักงาน กับ สวัสดิการที่พนักงานต้องการ นั้น บางเรื่องก็เป็นสิ่งที่ตรงกัน ส่วนบางเรื่องก็เป็นสิ่งที่ต่างความเห็นกัน ในเรื่องนี้จากทาง Jobthai (jobthai.com) เคยทำบทความนำเสนอผลการสำรวจความคิดเห็นจากคนทำงานทั่วประเทศในประเด็นที่ว่า “สวัสดิการที่คนทำงานต้องการจากองค์กร” ซึ่งเป็นการทำผลสำรวจจากคนทำงานที่เป็นพนักงานทั่วไปจำนวน 7,420 คน ทั่วประเทศ โดยมีผลการสำรวจออกมาดังนี้
เคยได้ยินคำว่า Flexible Time กันอยู่บ่อย ๆ ว่าแต่เอ๊ะ มันคืออะไร ??
สร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปฟรี ร้านค้าออนไลน์