เรื่องของความฉลาดทางอารมณ์ก็ยังคงเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างมาก สำหรับคนที่จะเป็นผู้จัดการหรือผู้นำที่ดี ไม่ว่าเวลาจะผ่านมากี่ปีแล้วก็ตาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคที่มีแต่ AI และ หุ่นยนต์ หันไปไหนมาไหน ก็มีแต่ระบบ AI ที่เข้ามาแทนที่การทำงานของคน เรื่องของความฉลาดทางอารมณ์ก็ยิ่งทวีความสำคัญมากขึ้นไปอีก
จากงานโครงการด้าน Engagement Survey ที่ได้ทำให้กับบริษัทต่างๆ ก็ยังคงยืนยันได้ว่า การที่พนักงานจะรู้สึกดี หรือไม่ดี กับงาน และการทำงานในบริษัท ส่วนใหญ่ก็มาจากตัวผู้จัดการที่เป็นหัวหน้าของพนักงานคนนั้นๆ
สิ่งที่มักจะได้รับ Feedback มาจากพนักงานเกี่ยวกับผู้จัดการก็คือ
ยังมีอีกมากที่เป็นคำพูดของพนักงานที่แสดงออกให้เห็นว่า เขาต้องการจะมาทำงานกับองค์กรนี้ แต่เขาไม่ต้องการที่จะทำงานกับผู้จัดการแบบนี้ จนสุดท้าย เหตุผลยอดนิยมที่ลาออกจากองค์กรก็ยังคงเป็นสาเหตุที่มาจากผู้จัดการของพนักงานอยู่ดี
และจากสาเหตุที่พนักงานแสดงความเห็นมาส่วนใหญ่ จะเห็นว่า แทบทุกเรื่องจะวิ่งไปหาสิ่งที่เราเรียกว่า ความฉลาดทางอารมณ์เกือบทั้งสิ้น (Emotional Intelligence) แสดงว่า ถ้าจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว หรือเกิดให้น้อยที่สุดได้นั้น ก็แปลว่า ผู้จัดการทุกคนจะต้องมีความฉลาดทางอารมณ์ เป็นคุณสมบัติหลักอีกข้อหนึ่งด้วย
คำถามก็คือ ความฉลาดทางอารมณ์นั้น มันฝึกฝน และเรียนรู้กันได้หรือไม่ ถ้าอ้างอิงจากงานวิจัยมากมายจากทั้งในและต่างประเทศ ก็จะตอบเหมือนกันว่า เรียนรู้และพัฒนาได้
แต่การเรียนรู้และพัฒนาความฉลาดทางอารมณ์นั้น จะต้องอาศัยเวลา และต้องเริ่มต้นพัฒนากันตั้งแต่พนักงานยังไม่ได้รับการเลื่อนตำแหน่งขึ้นไปเป็นผู้จัดการ อีกทั้งเรื่องของความฉลาดทางอารมณ์นั้น เป็นพฤติกรรมอย่างหนึ่ง ซึ่งการพัฒนาพฤติกรรมของคนเรานั้น มันจะต้องใช้วิธีการพัฒนาที่แตกต่างออกไปจากการพัฒนา ความรู้ และทักษะ
ที่สำคัญเจ้าตัวเองจะต้องยินดีที่จะพัฒนาตนเองในเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน ก็คงต้องเริ่มต้นจากตัวเองตั้งเป้าหมายว่าจะพัฒนาเรื่องความฉลาดทางอารมณ์ก่อน จากนั้นก็ต้องมีการประเมินดูว่า ปัจจุบันนี้ระดับ EQ ของเรานั้นเป็นเท่าไหร่ เมื่อทราบแล้วก็เริ่มลงมือพัฒนา โดยเริ่มจากการไปอบเรื่องราวเหล่านี้ก่อนก็ได้ว่ามันคืออะไร มีประโยชน์อย่างไร
เมื่อเข้าแล้วก็ต้องเริ่มนำมาใช้จริงในชีวิตการทำงานและชีวิตส่วนตัว โดยหัวหน้าของพนักงานคนนี้จะต้องเป็น Coach หรือไม่ก็ต้องจ้าง coach จากภายนอกเพื่อเข้ามาพัฒนาพนักงานในเรื่องนี้กันอย่างจริงจัง
ถ้าเจ้าตัวเต็มที่กับมัน พยายามกับมัน และมี Coach ที่ดีที่คอย Feedback และพูดคุย แลกเปลี่ยนความคิดเห็น และให้ข้อแนะนำอยู่เสมอในช่วงแรก รับรองได้ว่า EQ ของพนักงานจะเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นอย่างแน่นอน และพร้อมที่จะเป็นผู้จัดการที่มี EQ ที่ดี ที่ทำให้พนักงานทุกคนในทีมมีความสุขกับการทำงานได้อย่างดีครับ
โปรแกรมบริหารงานบุคคล Prosoft HRMI (Human Resource Management Intelligence) เราพร้อมเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยให้ HR บริหารงานเกี่ยวกับบุคคลในองค์กร พัฒนาองค์กรและบุคคลากรเพื่อให้องค์กรก้าวไปสู่ความสำเร็จ โดยมีระบบที่หลากหลาย ที่จะช่วยให้ HR ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นระบบ Organization ที่จัดเก็บข้อมูลขององค์กร, ระบบ Personnel ไว้บันทึกข้อมูลต่างๆ ของพนักงาน,โปรแกรมเงินเดือน ระบบ Payroll ที่ใช้ในการคำนวณเงินเดือนและค่าแรงของของพนักงาน, ระบบสมัครงานออนไลน์, ระบบลาออนไลน์ ESS, ระบบฝึกอบรมพนักงาน, ระบบสวัสดิการ, ระบบประเมินผล โปรแกรมบริหารงานบุคคล Prosoft HRMI จึงเป็นโปรแกรมบริหารทรัพยากรมนุษย์ที่ครอบคลุมที่สุด เพราะ ‘พนักงาน คือ ทรัพยากรที่มีค่าที่สุดในองค์กร’
โปรแกรมบริหารงานบุคคล Prosoft HRMI เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพการทำงานของแผนก HR อย่างแท้จริง
ทดลองใช้งานโปรแกรมบริหารงานบุคคล Prosoft HRMI ได้ที่ www.prosofthrmi.com
สอบถามเพิ่มเติม www.prosofthrmi.com/ContactUs
ที่มา : prakal.com