Work smart แบบที่เราจะนำเสนอ ก็คือ การทำงานแบบได้รับการวางแผนอย่างเป็นระบบ มีการจัดตารางงานอย่างเป็นระเบียบ ทำงานในเวลางาน แต่เน้นที่ทำงานเต็มที่เพื่อที่จะได้เหลือเวลาไปพักผ่อนและใช้ชีวิต ซึ่งจุดเริ่มต้นทั้งหมดของการ work smart ก็คือการคิดอย่างเป็นระบบ หรือ Systematic thinking
Systematic thinking คือ การคิดอย่างเป็นขั้นเป็นตอน มีระบบการคิดโดยมองเห็นภาพรวมและความเชื่อมโยงขององค์ประกอบในรายละเอียดที่สัมพันธ์กัน เป็นการคิดอย่างเป็นเหตุเป็นผล เพื่อให้สามารถวางระเบียบให้กับการกระทำและการตัดสินใจอย่างเป็นระบบ ทำให้การทำงานมีประสิทธิภาพและผลลัพธ์ที่ดีที่สุด นี่ทักษะสำคัญในการทำงาน โดยเฉพาะกับผู้บริหารที่ต้องรับภาระหน้าที่ มีเรื่องให้ต้องคิด ต้องรับผิดชอบมากมาย
การทำงานโดยใช้การคิดอย่างเป็นขั้นเป็นตอนจะช่วยให้สามารถมองเห็นภาพรวมของสถานการณ์ งานและปัญหาที่เกิดขึ้น สามารถเข้าใจรายละเอียดต่าง ๆ ที่เป็นองค์ประกอบของเหตุการณ์หรือปัญหาต่าง ๆ มองเห็นว่าองค์ประกอบเหล่านั้นสัมพัทธ์กันอย่างไร และจะต้องทำอะไรหรือแก้ตรงจุดไหนเพื่อให้ผ่านพ้นปัญหาไปได้ หรือทำให้ผลลัพธ์ของการทำงานออกมาดีที่สุด ช่วยให้ผู้บริหารสามารถตัดสินใจและวางแผนงานได้อย่างถูกต้อง แม่นยำ รวมไปถึงการจัดการงานต่าง ๆ ได้ดีขึ้น
ในหนังสือ The Fifth Discipline : The art and practice of the learning organization ของ Peter Senge ศาสตราจารย์จาก MIT ได้กล่าวถึงหัวใจของการสร้างองค์กรแห่งการเรียนรู้คือการสร้างเสริมวินัย 5 ประการ ซึ่ง 1 ในนั้นคือการส่งเสริมให้องค์กรมี Systematic Thinking ทั้งในระดับบุคคล (Personal) และ ทีม (Team) เพื่อผลลัพธ์การทำงานที่มีประสิทธิภาพ สร้างสรรค์และสามารถพัฒนาขีดความสามารถได้อย่างต่อเนื่อง
สร้างการคิดอย่างเป็นขั้นเป็นตอนด้วยทฤษฎีหมวก 6 ใบ
ดร. เอ็ดเวิร์ด เดอ โบ โน (Dr.Edward de Bono) ศาสตราจารย์ด้านการคิดชาวอิตาลีได้คิดค้นทฤษฎีหมวก 6 ใบ หรือ Six Thinking Hats เพื่อใช้เป็นหลักวิธีคิดแบบรอบด้าน โดยเปรียบเทียบความคิดด้านต่าง ๆ กับ หมวก 6 ใบที่แบ่งเป็นสี 6 สี ซึ่งเป็นการสร้างระบบความคิดที่ครอบคลุม และจัดระเบียบความคิดที่มักจะกระจัดกระจายให้เป็นระบบมากยิ่งขึ้น โดยหมวกทั้ง 6 ใบประกอบไปด้วย
หมั่นฝึกการคิดแบบ Systematic Thinking ด้วยทฤษฎีหมวก 6 ใบ เชื่อได้ว่าจะทำให้คุณกลายเป็นผู้บริหารองค์กรที่สามารถมองเห็นภาพรวมของปัญหาและคิดได้รอบด้านก่อนตัดสินใจ ยิ่งฝึกบ่อยจนเป็นนิสัย ก็จะทำให้คุณสามารถตัดสินใจได้รวดเร็วขึ้นแต่ยังมีความแม่นยำเหมือนเดิม และถ้านำไปประยุกต์ใช้กับองค์กร ส่งเสริมให้พนักงานหรือลูกน้องฝึกคิดฝึกแก้ปัญหาด้วยการคิดอย่างเป็นขั้นเป็นตอนเหมือนกัน ก็จะทำให้พนักงานสามารถแสดงออกได้อย่างอิสระ มีความคิดที่ครอบคลุม ลดความขัดแย้งในความคิดที่ไม่จำเป็น และยังสามารถดึงเอาศักยภาพของแต่ละคนมาใช้ได้อย่างเหมาะสม ซึ่งเป็นองค์ประกอบที่จะช่วยให้องค์กรพัฒนาและเดินหน้าไปอย่างไม่หยุดยั้ง
สามารถอ่านบทความน่าสนใจอื่นๆได้ ที่นี่ คลิก!
ที่มา : Link