ลักษณะมนุษย์ออฟฟิศที่ควรระวังพร้อมวิธีรับมืออย่างอยู่หมัด

ลักษณะมนุษย์ออฟฟิศที่ควรระวังพร้อมวิธีรับมืออย่างอยู่หมัด


ชีวิตการทำงานเราได้เจอคนที่มากหน้าหลายตา หลากหลายวัฒนธรรม ไม่ว่าจะเป็นองค์กรเล็กหรือองค์กรใหญ่ ก็มักต้องเผชิญปัญหาเพื่อนร่วมงานหรือพนักงานที่เข้าใจยากอยู่ไม่น้อย ซึ่งอาจก่อให้เกิดความขัดแย้งกันเองและจะส่งผลเสียไปสู่เป้าหมายขององค์กร แต่อย่างที่เคยบอกไปแล้วครับว่า ทุกปัญหาย่อมมีทางแก้อยู่เสมอ 

สิ่งแรกและสิ่งสำคัญเลยก็คือเริ่มต้นที่การปรับตัว ในเมื่อเราเปลี่ยนความคิดของคนอื่นไม่ได้ เราก็เป็นตัวอย่างที่ดีให้กับคนอื่นเสียเลย  เมื่อเริ่มต้นจากที่ตัวเราแล้ว ไม่ว่าปัญหาอะไร เราก็จะสามารถควบคุมมันได้มากขึ้น แต่การปรับตัวนั้นสิ่งที่จะเป็นเครื่องพิสูจน์ก็คือเวลา เพราะอีกฝ่ายก็ต้องทำความเข้าใจเราไม่ต่างกับที่เราก็ต้องเข้าใจเขาเช่นกัน

อย่างไรก็ดี ถ้าพูดแค่นี้ก็จะดูเป็นนามธรรมไปเสียหน่อย เรามาทำความเข้าใจกับพฤติกรรมของพนักงานในออฟฟิศที่อาจจะมีการกระทำที่น่าเอือมไปเสียหน่อย พร้อมวิธีให้หัวหน้างาน หรือ ฝ่าย HR รับมือกับพวกเขาอย่างสันติมาเล่าให้ฟังกันครับ

1.ไม่รับฟังผู้อื่น

คนประเภทนี้มักคิดว่าตัวเองเก่งและรู้ดีที่สุดในการทำงาน จนขาดการรับฟังผู้อื่นเพราะมองว่าเสียเวลา โดยลืมมองไปว่า การทำงานอาจต้องเปลี่ยนวิธีการใหม่ ๆ เพื่อให้เกิดการพัฒนาอยู่เสมอ 

วิธีการรับมือกับคนแบบนี้

ปล่อยวางเชิงอารมณ์ก่อนสื่อสารกับเขาและเตรียมข้อมูลที่ต้องสื่อสารให้มีความแตกต่างจนเขาคาดไม่ถึงและพร้อมรับฟังในสิ่งที่เกิดขึ้น หากเราได้นำเสนอข้อมูลไปให้พิจารณาแล้ว และเขาไม่ตัดสินใจจงก้มหน้าก้มตาทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุด หรือหากรู้สึกไม่มีความสุขในการทำงานกับคนแบบนี้ จงมองทางเลือกอื่น ๆ ไว้บ้างครับ เพราะชีวิตไม่มีทางตัน

2.พูดไม่คิด

คนประเภทนี้มักใช้อารมณ์เป็นใหญ่ มักจะพูดโดยไม่สนใจคนอื่นจนบางครั้งทำให้คนฟัง เสียหาย เสียหน้า เสียใจ และเสียความรู้สึก และมักไม่รู้ตนเอง หรือหากรู้ตนเองก็สายเกินแก้เสียแล้ว

วิธีการรับมือกับคนแบบนี้

อย่าไปเก็บคำพูดของคนเหล่านี้มาทำให้ใจเป็นทุกข์ ปล่อยวางได้ก็ควรปล่อยวางและโฟกัสสิ่งที่ทำตรงหน้าให้ดีที่สุด แต่ถ้าเรื่องที่เขาพูดนั้นเป็นความจริง เราต้องนำคำพูดเขาไปปรับปรุงเพื่อที่อีกฝ่ายจะไม่สามารถต่อว่าเราได้อีก

3.ขาดสัมมาคารวะผู้อื่น

คนประเภทนี้มักไม่ค่อยยิ้ม ไม่ค่อยไหว้ และไม่ให้เกียรติต่อคนที่อาวุโสเพราะคิดว่าตนเองนั้นมีความสามารถมากพอแล้ว จึงไม่จำเป็นต้องให้ความเคารพต่อใครทั้งสิ้น

วิธีการรับมือกับคนแบบนี้

ถ้าเขาไม่ทำ เราก็ทำก่อน เริ่มเป็นฝ่ายให้เกียรติต่อคนเหล่านี้ก่อน เพราะบางครั้งเขาอาจต้องการให้คนอื่นมาให้เกียรติต่อตัวเขาก่อน ดังนั้นเราอย่าไปโต้แย้งในสิ่งที่เขาเป็น แต่ให้ใช้ใจแลกใจกับเขาเพื่อทำให้เขาเห็นว่าการเคารพซึ่งกันและกันโดยเฉพาะต่อผู้หลักผู้ใหญ่นับเป็นความงดงามที่ควรทำในองค์กร

4.กังวลตลอดเวลา

คนประเภทนี้มักขี้กลัวและไม่มั่นใจเวลาที่ต้องทำสิ่งใหม่ ๆ จนขาดการลงมือทำที่มากพอ และไม่กล้าเสนอแนะความคิดเห็น ได้แต่รอคำสั่งให้ทำเพียงเท่านั้น

วิธีการรับมือกับคนแบบนี้

หากเรามีลูกน้องประเภทนี้ ควรให้กำลังใจและพร้อมรับฟังในการมอบหมายงานในทุกครั้งว่าสามารถทำงานได้ตามเวลาที่กำหนดหรือไม่ ถึงแม้งานอาจจะเร่งด่วน แต่ต้องพร้อมให้โอกาสเขาพูดถึงกรอบเวลาที่สามารถทำได้ รวมถึงการป้อนงานใหม่ ๆ อย่างค่อยเป็นค่อยไป อย่าไปเร่งรีบมากเกินขอบเขต

5.เฉื่อย

คนประเภทนี้มักทำงานไปเรื่อย ๆ ทำแบบเดิม ๆ ถึงแม้จะมีวิธีการที่ดีกว่าแต่ก็ไม่ยอมเปลี่ยนแปลงตนเอง ขาดความมุ่งมั่น ทำงานค่อนข้างช้า ไม่สนใจว่าคนอื่นที่รับงานต่อจะเป็นอย่างไร ทำงานทันเวลาไหม เพราะส่งงานล่าช้าทุกที 

วิธีการรับมือกับคนแบบนี้

อาจจะยากเสียหน่อยถ้าให้เขาเปลี่ยนแปลงตัวเองเพราะขาดความรู้ความเข้าใจในสิ่งใหม่ ๆ การสนับสนุนให้เขาได้ไปเปิดโลก สร้างมุมมองใหม่ ๆ เติมพลังให้ชีวิตนับว่าเป็นสิ่งที่ดี โดยส่งไปอบรมภายนอกองค์กร หรือให้ลองทำงานใหม่ ๆ อาจช่วยกระตุ้นให้เขาอยากเปลี่ยนแปลงตัวเองให้กระตือรือร้นมากขึ้น

6.ฆ่าน้อง ฟ้องนาย ขายเพื่อน

คนประเภทนี้ค่อนข้างน่ากลัว ปากกับใจไม่ค่อยตรงกัน ไม่เคยมองคนอื่นในแง่ดี

วิธีการรับมือกับคนแบบนี้

ทิ้งระยะห่างให้มากที่สุด แต่หากต้องทำงานร่วมกัน ต้องยอมรับและแสดงความเป็นมืออาชีพคือประสานงานเท่าที่จำเป็นต้องทำ ควรมีแผนสำรองเผื่อไว้ตลอด และไม่ควรประมาท

7.กินแรงเพื่อน

คนประเภทนี้ไม่ค่อยชอบลงมือทำงาน ไม่มีน้ำใจและไม่หยิบยื่นความช่วยเหลือใด ๆ ให้กับทีม ปฏิเสธงานทุกครั้ง

วิธีการรับมือกับคนแบบนี้

ให้กำลังใจและพูดในแง่ดีถึงความสามารถของเขา ทำให้เขาเกิดความภาคภูมิใจ และกล้าลงมือทำให้เห็นประจักษ์กับสายตาผู้อื่น อย่าไปว่าเขาในแง่ร้าย คนพวกนี้ชอบต่อต้าน ควรผ่อนหนักเป็นเบาจะดีกว่าครับ

8.นินทาคนอื่น

คนประเภทนี้ชอบจับกลุ่มนินทาว่าร้าย มองผู้อื่นในแง่ร้าย ต่อหน้าอย่าง ลับหลังอย่าง โดยเฉพาะการจับกลุ่มนินทาหัวหน้าตนเอง

วิธีการรับมือกับคนแบบนี้

หากไม่สามารถหลีกเลี่ยงในสถานการณ์ที่ถูกชวนคุยได้  ก็ไม่ควรพูดสมทบ แค่รับฟังนิ่ง ๆ เพื่อไม่ให้มีปัญหาฝ่ายไหนทั้งนั้น หรือหาคำพูดดี ๆ ในการบ่ายเบี่ยงจากวงสนทนา ด้วยการใช้ข้ออ้างงานเยอะ เจ้านายเรียกคุยก็สามารถทำได้เช่นกัน

9.เงียบ ไม่ค่อยสื่อสารกับคนอื่น

คนประเภทนี้มีนิสัยที่ค่อนข้างเก็บตัว ไม่ค่อยสุงสิงกับใครในออฟฟิศ ไม่มีการอัปเดตความเคลื่อนไหวหรือขั้นตอนของงาน และมักสร้างความสับสนให้คนในทีมด้วยความเงียบของเขา 

วิธีการรับมือกับคนแบบนี้

หากต้องประสานงานกับคนที่ชอบเงียบนั้น เราควรติดต่อสื่อสาร 2 ทาง ด้วยการส่งอีเมลเพื่อบันทึกข้อมูลเชิงลายลักษณ์อักษร จากนั้นโทรหาหรือเดินไปพูดคุยเพื่ออัปเดต Process งาน โดยไม่รอการตอบกลับผ่านอีเมลเพียงอย่างเดียว ทั้งนี้การพูดคุยตัวต่อตัวนั้นสำคัญกว่าการส่งอีเมลในแง่ของความชัดเจน เพื่อที่จะไม่ทำให้ฝ่ายเราเสียเวลาด้วยครับ


สามารถอ่านบทความน่าสนใจอื่นๆได้ ที่นี่ คลิก!

บทความโดย : อาจารย์มงคล กรัตะนุตถะ วิทยากร นักเขียน กรรมการผู้จัดการบริษัท ด็อกเตอร์ฟิช จำกัด

 544
ผู้เข้าชม
สร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปฟรี ร้านค้าออนไลน์