1. ผลตอบแทนที่เหมาะสมกับผลงาน
คนเราทำงานก็เพื่อต้องการได้ผลตอบแทนมาใช้ในการดำรงชีพเป็นหลัก องค์กรต้องหันกลับมาพิจารณาว่าเงินเดือนและค่าตอบแทนต่าง ๆ ที่ให้กับพนักงานนั้นเหมาะสมพอดีกับงานที่เขาต้องรับผิดชอบหรือไม่ อย่างน้อยเงินเดือนของคนทำงานก็ควรจะเพิ่มขึ้นบ้างเมื่อทำงานมาได้ระยะหนึ่งและมีผลงานเป็นที่น่าพอใจ เพื่อเป็นกำลังใจในการทำงานต่อไปกับองค์กร นอกจากการขึ้นเงินเดือนแล้วก็ยังต้องมองไปถึงสวัสดิการพิเศษอื่น ๆ ที่ควรมีไว้ดึงดูดใจด้วยเช่นกัน
2. ทำงานหลายปี ต้องมีโอกาสเติบโต
การทำงานเดิม ๆ ซ้ำซาก เป็นเวลานาน ๆ อาจบั่นทอนกำลังใจคนทำงานโดยไม่รู้ตัว ในที่สุดความเบื่อก็จะถามหา นำไปสู่การอยากลาออกจากงานได้ ผู้ประกอบการควรเพิ่มความสุขให้กับคนทำงาน ด้วยการดึงพวกเขาออกจากสถานการณ์เดิม ๆ การโอนย้าย หมุนเวียนตำแหน่งงาน หรือมอบหมายงานที่มีความท้าทายมากขึ้น ช่วยให้พนักงานพึงพอใจและสนุกที่จะทำงานได้อย่างต่อเนื่อง แถมยังช่วยพัฒนาพนักงานให้มีฝีมือเก่งรอบด้าน สร้าง Career Path ที่ดีได้ องค์กรก็ได้ปั้นคนทำงานที่มีคุณภาพให้ทำงานเพื่อองค์กร win-win ทุกฝ่ายอย่างแน่นอน
3. ให้โอกาสในการพัฒนา ฝึกทักษะ
การเป็นผู้ให้ ได้อะไรมากกว่าที่คิด หากองค์กรให้โอกาสและให้ความสำคัญกับการพัฒนาศักยภาพพนักงาน ส่งตัวไปศึกษา ดูงาน อบรม พนักงานจะรู้สึกผูกพันกับองค์กรและมีความสุขกับการทำงาน เพิ่มโอกาสที่พวกเขาจะคิดสร้างสรรค์และอยากทำสิ่งใหม่เพื่อพัฒนางานและองค์กรได้อีกมากมาย
4. สร้างความเข้าใจในการประเมินผลการทำงาน
มีมาตรฐานและแนวปฏิบัติเป็นที่ยอมรับเกี่ยวกับการประเมินผลการทำงานของพนักงาน มีความโปร่งใส่ ตรวจสอบได้ พร้อมชี้แจงให้พนักงานเข้าใจเกี่ยวกับผลการประเมินในแต่ละรอบ นอกจากนี้ยังควรมุ่งเน้นการประเมินผลงานเพื่อยกระดับปรับปรุงการทำงาน มากกว่านำไปใช้ในการขึ้นเงินเดือนหรือให้โบนัสเพียงอย่างเดียว เพื่อช่วยเป็นกระจกสะท้อนภาพการทำงานของพนักงาน พร้อมหาวิธีพัฒนางานและองค์กรไปด้วยกัน
5. ทำให้พนักงานรู้สึกมีคุณค่าและมีความหมาย
พนักงานที่รู้สึกว่าตนเองมีคุณค่า จะรู้สึกมีส่วนร่วมและเป็นส่วนหนึ่งขององค์กร นำไปสู่ passion ที่อยากจะทำงานเพื่อองค์กรอย่างต่อเนื่อง องค์กรต้องพยายามเข้าถึงและเข้าใจพนักงาน ทำให้พวกเขาเห็นว่างานที่ทำอยู่มีคุณค่าและความหมายต่อองค์กรมากเพียงใด พวกเขาเป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จขององค์กรได้อย่างไร แสดงชื่นชมเมื่อพวกเขาทำผลงานได้ดี และร่วมกันหาทางออกเมื่อพบปัญหา เน้นการสื่อสาร สร้างความรู้สึกที่ดี พนักงานย่อมมีความสุขอย่างแน่นอน
อย่าปล่อยให้บรรยากาศเครียด ๆ เซ็ง ๆ เบื่อ ๆ เข้าครอบคลุมองค์กรของคุณ สภาพแวดล้อมไม่ดีในที่ทำงาน นำไปสู่การหมดไฟของพนักงานได้ในที่สุด ปรับบรรยากาศให้เอื้อต่อการทำงาน เพิ่มพลังในทางสร้างสรรค์ สร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างพนักงาน หัวหน้างาน และผู้บริหาร ปรับวิธีการให้ยืดหยุ่น ลดความเป็นทางการ อาจช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานได้อย่างไม่น่าเชื่อ
7. ให้ความสำคัญกับ Work-life Balance
คนทำงานยุคใหม่ให้ความสำคัญทั้งเรื่องงานและการใช้ชีวิตที่สมดุล Work-Life Balance จึงเป็นอีกกลยุทธ์ที่องค์กรต้องปรับตัวเพื่อดึงดูดใจคนทำงาน การทำงานยุคนี้ต้องยืดหยุ่นมากขึ้นกว่าเดิม ทั้งเวลาการทำงาน สถานที่ทำงาน เวลาพักระหว่างวัน รวมไปถึงวันพักผ่อนประจำปี เพื่อเอื้อให้พนักงานได้มีเวลาดูแลตัวเอง ดูแลคนรอบข้าง ไปพร้อม ๆ กับการทุ่มเททำงานให้องค์กร จึงจะบรรลุวิถีแห่งการทำงานที่มีความสุขและยั่งยืนได้อย่างแท้จริง
งานที่ดีนั้นดึงดูดคนทำงานทุกคนได้อยู่แล้ว แต่งานที่ดีกว่าคืองานที่ทำแล้วมีความสุข นับเป็นโจทย์ท้าทายให้ทุกองค์กรต้องตีให้แตก ให้โดนใจพนักงาน เพราะการรักษาคนทำงานให้อยู่กับองค์กรไปนาน ๆ อาจเป็นเรื่องยากกว่าการรับคนทำงานเข้ามาใหม่ หากองค์กรไม่อยากสูญเสียพนักงานที่มีค่าไป ต้องตอบโจทย์ความต้องการของพวกเขาให้ได้ มีแนวทางดี ๆ ให้นำไปปรับใช้อยู่เสมอ องค์กรที่ทำงานแล้วมีความสุขจะมีหน้าตาอย่างไร อยู่ที่คุณแล้วว่าจะทำให้เป็นจริงได้มากน้อยเพียงใด
ที่มา : Link