การเป็นหัวหน้าคนต้องสร้างพระเดชพระคุณ เพื่อสะสมบารมีสำหรับการเป็นเจ้าคนนายคน โดยทำตัวเป็นผู้ให้ที่แท้จริง ไม่หวังสิ่งตอบแทน แล้วถ้าเรามีลูกน้องที่เป็นคนดีคนเก่ง เขาก็จะกตัญญูรู้คุณ ตอบแทนเราเอง ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นการตอบแทนด้วยผลปฏิบัติงานที่ดี หรือพฤติกรรมที่ดี โดยที่ไม่ต้องร้องขอ แต่ถ้าเกิดให้ไปแล้ว ไม่ได้รับผลตอบแทนที่ดีกลับคืนมา ก็ถือว่าเป็นการพิจารณาคัดสรรคนดีมีฝีมือไปในตัว ว่าลูกน้องคนไหนควรจะส่งเสริมให้เจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงาน คนไหนไม่สมควรเลี้ยงไว้ให้เสียข้าวสุก ต่อไปนี้เป็นสิ่งที่คนเป็นหัวหน้าหรือผู้บังคับบัญชาควรจะต้องให้แก่ลูกน้องหรือผู้ใต้บังคับบัญชา 1. ให้ความรู้ 2. ให้ประสบการณ์ 3. ให้ความช่วยเหลือ 4. ให้ความเสมอภาค 5. ให้กำลังใจ 6. ให้คำชมเชย 7. ให้อภัย 8. ให้โอกาส 9. ให้ความเมตตา 10. ให้ความไว้วางใจ 11. ให้ฟีดแบค 12. ให้แนวทาง 13. ให้ดูเป็นตัวอย่าง 14. ให้สินน้ำใจเล็ก ๆ น้อย ๆ 15. ให้แรงบันดาลใจ 16. ฯลฯ หัวหน้าบางคนกำลังให้ในทางที่ผิด นั่นคือ ให้แต่งาน แต่ไม่ให้สิ่งที่จำเป็นต้องใช้ในการทำงาน เช่น ไม่ให้อำนาจหรืออิสระในการตัดสินใจ ไม่ให้คำแนะนำไกด์ไลน์ ไม่ให้ทรัพยากรหรือเครื่องมืออุปกรณ์ที่จำเป็นต้องใช้ในการทำงาน ฯลฯ นั่นแสดงว่าหัวหน้าไม่ได้เป็นผู้ให้อย่างแท้จริง แต่คาดหวังจะเป็นผู้รับเสียมากกว่า คือ ต้องการจะได้ผลงานจากลูกน้อง แต่ไม่ได้คำนึงถึงความสำเร็จร่วมกัน ทางที่ดีหัวหน้าควรจะให้ในสิ่งที่สามารถซื้อใจลูกน้องได้ ซึ่งไม่ได้หมายความว่าจะต้องใช้เงินซื้อได้เสมอไป แต่จะต้องใช้ใจซื้อใจ เพราะคุณลักษณะนิสัยของคนทำงานไทย ก็คือ ถ้าหากซื้อใจได้จะยอมทำงานให้แบบถวายหัว ขอแค่ลูกพี่สั่งมา จะเอาอะไรจะจัดให้เต็มที่ ไม่มีปริปากบ่น แต่ถ้าหากไม่ได้ใจแล้วละก็ เอาเงินมาล่อก็ไม่อยากทำให้ ดังนั้น เมื่อรู้จริตอย่างนี้แล้ว หัวหน้างานต้องขยันให้ลูกน้องบ่อย ๆ นะครับ เพราะตรงกับพุทธสุภาษิตที่ว่า “ททมาโน ปิโยโหติ ผู้ให้ย่อมเป็นที่รัก” ยิ่งในช่วงเทศกาลวันวาเลนไทน์อย่างนี้แล้ว เรามาทำให้ลูกน้องรักเรากันดีกว่า บทความโดย : humanrevod.wordpress.com ประกาศบทความโดย : www.prosofthrmi.com |