กรมสรรพากร
เลขที่ข่าว ปชส. 68/2554
วันที่แถลงข่าว 16 กันยายน 2554
เรื่อง กรมสรรพากรแจ้งผู้บริจาคช่วยเหลือน้ำท่วมได้รับสิทธิลดหย่อนภาษีเต็มที่
ตามที่ ขณะนี้ได้เกิดอุทกภัยน้ำท่วมครั้งใหญ่ในหลายพื้นที่ของประเทศ ก่อให้เกิดความเดือดร้อนแก่ประชาชนเป็นอย่างมาก ซึ่งรัฐบาลได้เร่งสั่งการให้หน่วยงานต่าง ๆ ดำเนินการให้ความช่วยเหลือเป็นการด่วน พร้อมทั้ง นำสิ่งของที่จำเป็นไปมอบให้แก่ผู้ประสบภัยเป็นการช่วยเหลือในเบื้องต้น และขณะนี้หน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน ได้เปิดรับบริจาคเงินและสิ่งของเพื่อรวบรวมส่งไปช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ต่อไป นั้น
กรมสรรพากร ขอแจ้งให้ทราบว่า เพื่อให้การบริจาคช่วยเหลือในกรณีดังกล่าว สามารถนำเงินหรือมูลค่าทรัพย์สินที่บริจาคนำมาหักเป็นค่าลดหย่อน หรือหักเป็นรายจ่ายในการคำนวณภาษีได้ จะต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไข ดังนี้
1. การบริจาค ให้แก่ ส่วนราชการ มูลนิธิ องค์การ หรือสถานสาธารณกุศลที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังประกาศกำหนดในราชกิจจานุเบกษา เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย
1.1 บุคคลธรรมดาที่บริจาค “เงิน” สามารถนำจำนวนเงินดังกล่าว ไปหักลดหย่อนในการคำนวณเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้ แต่ทั้งนี้เมื่อรวมกับเงินบริจาคอื่นแล้วต้องไม่เกินร้อยละ 10 ของเงินได้พึงประเมินหลังจากหักค่าใช้จ่ายและหักค่าลดหย่อน
1.2 บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่บริจาค “เงิน หรือ ทรัพย์สิน” สามารถนำจำนวนเงินหรือมูลค่าทรัพย์สินดังกล่าวไปหักเป็นรายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิเพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลได้ แต่ทั้งนี้เมื่อรวมกับรายจ่ายเพื่อการกุศลสาธารณะหรือเพื่อการสาธารณประโยชน์แล้วต้องไม่เกินร้อยละ 2 ของกำไรสุทธิ
1.3 ผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ที่นำทรัพย์สินหรือสินค้าไปบริจาค ไม่ต้องนำมูลค่าสิ่งของที่บริจาคดังกล่าวมารวมเป็นมูลค่าของฐานภาษีในการคำนวณเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม
2. การบริจาคผ่านตัวแทน เช่น สถานีโทรทัศน์ หรือสถานีวิทยุต่างๆ
2.1 บุคคลธรรมดาที่บริจาค “เงิน” ให้แก่ ผู้ประสบอุทกภัย ผ่านบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล หรือนิติบุคคลอื่น ซึ่งเป็นตัวแทนรับเงินบริจาคที่ได้รับการขึ้นทะเบียนกับกรมสรรพากร เพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ประสบภัย ผู้บริจาค สามารถนำจำนวนเงินดังกล่าว ไปหักลดหย่อนในการคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้ โดยเมื่อรวมกับเงินบริจาคอื่นแล้วต้องไม่เกินร้อยละ 10 ของเงินได้หลังหักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อน
2.2 บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่บริจาค “เงินหรือทรัพย์สิน” ให้แก่ ผู้ประสบอุทกภัย ผ่านบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล หรือนิติบุคคลอื่น ซึ่งเป็นตัวแทนรับเงินบริจาคที่ได้รับการขึ้นทะเบียนกับกรมสรรพากร เพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ประสบภัย ผู้บริจาคสามารถนำจำนวนเงิน หรือมูลค่าทรัพย์สินดังกล่าวไปหักเป็นรายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิเพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลได้ แต่เมื่อรวมกับรายจ่ายเพื่อการกุศลสาธารณะหรือเพื่อการสาธารณประโยชน์แล้ว ต้องไม่เกินร้อยละ 2 ของกำไรสุทธิ
2.3 ยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม ให้แก่ผู้ประกอบการที่นำสินค้าไปบริจาคเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย โดยมีบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล หรือนิติบุคคลอื่น เป็นตัวแทนรับสินค้าที่บริจาคเพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยนั้น
3. การบริจาคให้สถานศึกษาที่ได้รับการประกาศของกระทรวงศึกษา เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการสนับสนุนการศึกษา ไม่ว่าจะเป็นการสร้างอาคารเรียน การจัดหาวัสดุอุปกรณ์ ตำราเรียน ค่าจ้างอาจารย์ และทุนการศึกษา ผู้บริจาคสามารถนำมาหักลดหย่อนหรือค่าใช้จ่ายได้ ดังนี้
3.1 บุคคลธรรมดาสามารถนำ “เงิน” บริจาค มาหักเป็นค่าลดหย่อนได้เป็นจำนวน 2 เท่าของเงินบริจาคเพื่อสนับสนุนการศึกษา แต่ต้องไม่เกินร้อยละ 10 ของเงินได้สุทธิ
3.2 บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่บริจาค “เงินหรือทรัพย์สิน” เพื่อสนับสนุนการศึกษาให้หักเป็นรายจ่ายได้ 2 เท่าของรายจ่ายที่จ่ายไปเป็นค่าใช้จ่ายเพื่อสนับสนุนการศึกษา แต่ต้องไม่เกินร้อยละ 10 ของกำไรสุทธิก่อนหักรายจ่ายเพื่อการกุศลสาธารณะหรือเพื่อการสาธารณประโยชน์ และเพื่อการศึกษาหรือเพื่อการกีฬา
สำหรับอ่านเพิ่มเติม :
http://www.rd.go.th/publish/fileadmin/images/image_news/news68_2554.pdf