เปิดประตูการบริหารทรัพยากรมนุษย์สู่อาเซียน

เปิดประตูการบริหารทรัพยากรมนุษย์สู่อาเซียน



ก็ไม่น่าแปลกอะไร เพราะลูกค้าคือที่มาของแหล่งเงินทุนหมุนเวียนในองค์กร ไม่ว่าจะเป็นองค์กรขนาดเล็ก หรือขนาดใหญ่ หากองค์กรใดปราศจากน้ำ เลี้ยงจากลูกค้า องค์กรนั้นคงไม่สามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้

ดังนั้น บริษัทจึงต้องแสวงหากลยุทธ์ (Strategies) ต่าง ๆ เพื่อมานำเสนอกลุ่มลูกค้า (Target market)ของตน เพื่อดึงดูดความสนใจ (Interest) และเพิ่มความต้องการ (Want) ในตลาดทั้งที่มีอยู่เดิม และตลาดที่มีความต้องการใหม่เมื่อ เราก้าวเข้าสู่ตลาดใหม่อย่างประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน นอกเหนือจากการพัฒนาองค์กร เพื่อให้สำเร็จตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ องค์กรยังต้องเตรียมพร้อม เพื่อรับมือกับคู่แข่งในตลาดที่มากขึ้น คำถาม คือ นอกเหนือจากการพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์ (Increase product′s quality) ลดค่าใช้จ่ายทั้งทางตรง และทางอ้อม (Reduce direct and indirect expenses)เพื่อเพิ่มผลผลิต (Increase output) และลดของเสียแล้ว (Decrease defective)เรายังทำอะไรได้บ้าง ที่ไม่เป็นการเพิ่มภาระหนี้สินในองค์กรมากจนเกินไป

ดังนั้น จึงอยากจะกล่าวถึงการพัฒนาคุณภาพของทรัพยากรมนุษย์ (Human resource development) องค์กรที่เน้นไปทางอุตสาหกรรม หรือโรงงานที่ใช้เครื่องจักรเป็นหลัก อาจจะยังมองไม่เห็นภาพเท่ากับ องค์กรที่ใช้ความสามารถในตัวบุคคล เพื่อการบริหารจัดการ อย่างเช่นสถานศึกษา ตั้งแต่ระดับเตรียมอนุบาล ถึงระดับมหาวิทยาลัย เป็นต้น

 การบริหารขีดความสามารถของทรัพยากรมนุษย์ไม่ใช่เรื่องง่าย หากแต่ต้องใช้ความเข้าใจ และระยะเวลาหลายองค์กรให้ความสำคัญกับเครื่องมือวัดผลการดำเนินการ หรือการปฏิบัติงาน( KPI: Key Performance Index) เพื่อเทียบกับผลที่องค์กรคาดหวังในตำแหน่งงานนั้น ๆ

 ดังนั้น ประเภทของตัวชี้วัด จึงแบ่งออกเป็น 2 ลักษณะคือ

1. Lead Indicators หรือตัวชี้วัดถึงเงื่อนไขหรือปัจจัยที่เป็นตัวขับเคลื่อนให้เกิดผลการปฏิบัติงานที่ดี  

2.Lag Indicators หรือตัวชี้วัดที่เป็นผลการทำงานที่สามารถวัดได้อย่างเป็นรูปธรรม และเป็นผลลัพธ์ของการปฏิบัติงานขององค์การ

แต่ ในฐานะผู้บริหารระดับสูง เราต้องไม่ลืมว่า ผลการปฏิบัติการ หรือประสิทธิภาพของบุคคลไม่อาจเกิดขึ้นได้ ถ้าหากเราไม่ได้สร้างระบบงานที่มีประสิทธิภาพ ไม่มีการสร้างแรงจูงใจ และบุคคลไม่มีความผาสุก และพึงพอใจในหน้าที่ที่เขารับผิดชอบ ผู้บริหารจึงควรสนับสนุนให้บุคคลในองค์กรมีส่วนร่วมในการกำหนดเป้าประสงค์ โดยวิธีกำหนดเป้าหมายจำแนกได้เป็นหลายประเภท เช่น เป้าหมายที่กำหนดตามระเบียบข้อบังคับ (Legislation Requirements) เป้าหมายที่กำหนดตามผลการดำเนินงานในสภาพปัจจุบัน (Current Level of Performance) เป้าหมายที่สูงกว่าระดับปกติ แต่สามารถบรรลุได้ (Achievable Target) เป้าหมายแบบท้าทาย (Stretching target) และเป้าหมายคงที่หรือยืดหยุ่น (Static versus flexible target)

อย่าง ที่กล่าวข้างต้น เกี่ยวกับการเปิดตลาดใหม่เข้าสู่ประตูประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ผู้บริหารอาจจะต้องปรับเป้าประสงค์ขององค์กร รวมถึงตัวชี้วัดความสามารถของพนักงาน ให้เป็นไปตามกลไกความต้องการของตลาดแต่ ต้องไม่ลืมว่า ประสิทธิภาพจะเกิดขึ้นได้ต้องอาศัยความร่วมมือของบุคลากรในองค์กร หาใช่เพียงแต่ฐานลูกค้าที่มีหรือผู้บริหารระดับสูงเท่านั้น ถึงจะทำให้การเปิดประตูสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนครั้งนี้สัมฤทธิผล 



บทความโดย : www.prachachat.net
ประกาศบทความโดย : www.prosofthrmi.com
 3527
ผู้เข้าชม

บทความที่เกี่ยวข้อง

การทำงานโดยที่คนทำงานไม่มีความสุขนั้นส่งผลกระทบทั้งระบบ ไม่ว่าจะเป็นผลงานที่ไม่มีประสิทธิภาพ องค์กรไม่มีความก้าวหน้า ลองมาดูกันว่า อะไรเป็นปัจจัยที่ทำให้พนักงานไม่มีความสุขกับการทำงาน
1. สัญญาจ้างทำด้วยวาจาก็ได้ 2. นายจ้างไม่มีสิทธิเรียกรับหลักประกันการทำงาน เว้นทำงานเกี่ยวข้องกับเงิน หรือทรัพย์สินของนายจ้าง 3. เมื่อการประกันสิ้นสุดลง นายจ้างต้องคืนหลักประกันให้แก่ลูกจ้างภายใน 7 วัน 4. นายจ้างไม่มีสิทธิหักค่าจ้าง ค่าล่วงเวลา ค่าทำงานวันหยุด เว้นแต่เป็นการหักตามที่กฎหมายกำหนด 5. ลูกจ้างลาออกไม่ต้องรอการอนุมัติก็มีผล 6. นายจ้างไล่ออกไม่ต้องเป็นหนังสือไล่ออกก็มีผล
การทำงาน เป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญของชีวิต ซึ่งรูปแบบของการจ้างงานไม่ได้มีเพียงงานประจำและรอเวลาเกษียณอายุเพียงเท่านั้น แต่ยังมีลักษณะการจ้างงานอีกหลายประเภท ที่สามารถตอบโจทย์การใช้ชีวิตที่แตกต่างกันออกไปได้ ในบทความนี้จะมาสรุปสั้น ๆ ให้เข้าใจได้ง่าย ๆ ว่าการจ้างงานมีกี่ประเภท และแต่ละประเภทมีข้อดีแตกต่างกันอย่างไร
การพาพนักงานไป Outing ถือเป็นหนึ่งในสวัสดิการหลัก ๆ ที่หลายองค์กรมี เพื่อดึงดูดพนักงานทั้งภายในและภายนอกให้อยากมาร่วมงานกันด้วย โดยวัตถุประสงค์หลักของการไป Outing ก็เพื่อเสริมสร้างความสามัคคี และเพื่อตอบแทนพนักงาน ให้ได้ผ่อนคลายจากการทำงานประจำวันอันตึงเครียดมายาวนาน โดยที่บริษัทจะดูแลเรื่องค่าใช้จ่ายไว้ทั้งหมด
ระบบลงเวลาเข้า-ออกของพนักงาน คือ ระบบที่ช่วยในการบันทึกเวลาการทำงานของพนักงาน ผ่านอุปกรณ์ดิจิทัลต่างๆ ตั้งแต่ เครื่องสแกนลายนิ้วมือ (Finger Scanner), สมาร์ทโฟน (Smart Phone), แท็บเล็ต (Tablet), ตลอดจนอุปกรณ์ต่างๆ ที่สามารถยืนยันตัวตนผู้ใช้งานได้อย่างชัดเจน ปลอดภัย และเชื่อมต่อสู่ระบบข้อมูลกลางอย่างระบบคลาวด์ (Cloud System) ได้ โดยจะระบุเวลาที่พนักงานเข้ามาทำงานและออกจากงานในแต่ละวัน ดูสถิติ ขาด ลา มาสาย ระบบนี้มีบทบาทสำคัญในการบริหารจัดการเวลาและการทำงานของพนักงาน ช่วยให้ฝ่ายทรัพยากรบุคคล (HR) และฝ่ายบริหารสามารถติดตามการทำงานของพนักงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงใช้ข้อมูลที่บันทึกเพื่อคำนวณเงินเดือน สวัสดิการ ค่าล่วงเวลา และการจัดทำรายงานการเข้างานได้อย่างแม่นยำ ตอบโจทย์การทำงานในธุรกิจยุคใหม่ได้อย่างสมบูรณ์แบบ
มนุษย์เงินเดือนบางคนอาจจะไม่รู้ด้วยซ้ำว่า ตัวเองมีสิทธิที่จะเรียกร้อง ค่าชดเชยจากนายจ้าง อันนี้เป็นสิทธิ์ของเรานะ พี่ทุยบอกเลยว่า เงินค่าชดเชย เป็นสิ่งที่นายจ้าง ต้องจ่าย ให้กับพนักงานหรือลูกจ้าง เพื่อช่วยเหลือในกรณีให้ออกจากงาน ซึ่งไม่ได้มาจากทำความผิดของพนักงานหรือลูกจ้าง แต่อาจจะด้วยเหตุผลบางอย่างที่จำเป็นต้องลดจำนวนพนักงานลง
สร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปฟรี ร้านค้าออนไลน์